เรียนต่อต่างประเทศ พิชิต King’s College London ม.ดังอันดับโลก ด้วยทุน ก.พ. และ IELTS 8.0

เรียนต่อต่างประเทศ พิชิต King’s College London ม.ดังอันดับโลก ด้วยทุน ก.พ. และ IELTS 8.0

เรื่องราวการเรียนต่อต่างประเทศของ “น้องเอิร์ธ” ที่สามารถพิชิตมหาวิทยาลัยในฝันได้สำเร็จ ยื่นติด King’s College London มหาวิทยาลัยในอังกฤษที่ติด Top 50 ของโลก โดยน้องเอิร์ธสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาโท สาขาด้านกฎหมาย (Master of law) ด้วยทุน ก.พ. ซึ่งเป็นทุนเรียนต่อต่างประเทศจากรัฐบาล แต่กว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยนี้ได้ ก็ทำเอาท้อจนเกือบถอดใจไปแล้วเหมือนกัน

เรียนต่อต่างประเทศ พิชิต King’s College London
ม.ดังอันดับโลก ด้วยทุน ก.พ. และ IELTS 8.0 

 

ก่อนอื่นคงต้องเล่าก่อนว่าน้องเอิร์ธ เรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ ภาคภาษาไทย แต่โดยส่วนตัวก็เป็นคนที่ชอบในภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก หากถามว่าวิชาไหนเป็นวิชาที่ถนัด น้องเอิร์ธก็จะยกให้ภาษาอังกฤษเป็นที่สุด กระทั่งความชอบในภาษากลายเป็นแรงบันดาลใจให้อยากไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ จึงอยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น ทำให้การเรียนต่ออังกฤษกลายเป็นความฝัน โดยมหาวิทยาลัยที่เล็งไว้ คือ King’s College London

 

 

แชร์ประสบการณ์ชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ (ทุน ก.พ.)

 

บันไดขั้นแรกในการเรียนต่ออังกฤษของน้องเอิร์ธคือการสอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศจากรัฐบาล ซึ่งเป็นทุน ก.พ. ประเภททุน UIS น้องเอิร์ธต้องเริ่มสอบตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 โดยทางสำนักงาน ก.พ. จะให้ทุนการศึกษาในชั้นปีสุดท้ายด้วย จากนั้นน้องเอิร์ธต้องทำงานต่ออีก 2 ปี ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยทุน ก.พ. 

ในส่วนของข้อสอบชิงทุน ก.พ. ประกอบไปด้วยวิชาคณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ลักษณะข้อสอบคล้ายภาค ก. ของข้อสอบ ก.พ. แต่ยากกว่านิดหน่อย ตอนสอบน้องเอิร์ธบอกว่าไม่ได้เรียนพิเศษและไม่ได้เตรียมตัวมากนัก เพราะไม่ได้คาดหวัง เพียงแค่ลองไปสอบดู แต่ผลออกมาก็สามารถพิชิตทุน UIS ได้สำเร็จ จึงดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 


 


 

หินที่สุดคือการสอบ IELTS 

 

น้องเอิร์ธเริ่มหาข้อมูลล่วงหน้าเป็นเวลา 1 ปี ก่อนถึงวันเปิดรับสมัครของมหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมตัวเรียนต่ออังกฤษ จึงได้รู้ว่าทาง King’s College London มีข้อกำหนดเอาไว้ว่าต้องใช้คะแนน IELTS overall ไม่ต่ำกว่า 7.0 โดยแต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 6.5  

น้องเอิร์ธตัดสินใจหาที่เรียนพิเศษก่อนไปสอบ IELTS เพราะตอนที่สอบชิงทุน UIS ได้ ทางสำนักงาน ก.พ. เคยเรียกผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกให้ไปอบรม และได้เอาข้อสอบ IELTS มาให้ลองทำ เป็นพาร์ทของ Writing ซึ่งตอนนั้นน้องเอิร์ธได้คะแนนเพียง 5.5 เท่านั้น จึงคิดว่าถ้าหากจะต้องสอบ IELTS จริงๆ ก็ควรรู้วิธีการเขียนที่ถูกต้องก่อนไปสอบ จะได้ไม่ต้องสอบหลายครั้ง เพราะค่าสอบ IELTS มีราคาค่อนข้างสูง

 

 

โดยสถาบันเรียนพิเศษที่น้องเอิร์ธมองหา คือการเรียนแบบ Online เพราะช่วงนั้นน้องทำงานและไม่มีเวลามากพอที่จะเดินทางไปเรียนที่สถาบัน จากนั้นเมื่อหาที่เรียนได้แล้วก็ลงคอร์สกระทั่งเรียนจนจบ และเดินทางไปสอบจริง 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการสอบ IELTS ครั้งแรกของน้องเอิร์ธคือ overall ได้ 7.5 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำของมหาวิทยาลัย แต่กลับสอบตกทักษะ Speaking ได้ไม่ถึง 6.5 จึงเปลี่ยนที่เรียนและลงเรียนเป็นครั้งที่ 2 ก่อนจะไปสอบครั้งที่ 2 และผลลัพธ์ที่ได้ IELTS overall ยังคงได้ 7.5 เท่าเดิม แต่คราวนี้สอบตก Writing ซึ่งได้เพียง 6.0 เท่านั้น

ทั้งที่ก่อนหน้านี้น้องเอิร์ธคิดว่าตัวเองเป็นคนพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี เรียนพิเศษภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก และชอบในภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิม ชีวิตประจำวันยังชอบดูหนังฟังเพลงเป็นภาษาอังกฤษ และค่อนข้างเข้าใจเป็นอย่างดี จึงคิดว่าติวไม่เท่าไร ก็น่าจะสอบ IELTS ผ่านได้ 

แต่หลังจากสอบถึง 2 ครั้งแล้ว คะแนนก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ทำให้น้องเอิร์ธรู้สึกกดดัน และเคยท้อจนเกือบจะเปลี่ยนแผนไปเลือกมหาวิทยาลัยอื่น ที่ไม่ต้องใช้คะแนน IELTS สูงเท่ากับ King’s College London ด้วยซ้ำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความฝันครั้งนี้ อุปสรรคที่ชัดเจนที่สุดก็คือการสอบ IELTS อย่างแท้จริง

 


 


ในที่สุดคะแนน IELTS ก็ผ่านเกณฑ์

 

หลังจากคะแนนสอบรอบที่ 2 ไม่ถึงเกณฑ์ น้องเอิร์ธตัดสินใจมองหาที่เรียนพิเศษใหม่อีกครั้ง โดยค้นหาจาก Google และ Facebook ไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นโฆษณาจากเพจ Kru Jeab IELTS คอร์สติวไอเอลออนไลน์ การันตี 7.0 เมื่อเห็นบ่อยๆ เข้าจึงลองศึกษาข้อมูลคอร์สพร้อมกับดูรีวิว และตัดสินใจลงคอร์สในที่สุด ใช้เวลาในการเรียน 1 เดือนครึ่ง ก็ไปสอบเป็นครั้งที่ 3 และได้ IELTS overall 8.0 Listening 9.0 Reading 8.5 Writing 6.5 และ Speaking 7.0 ซึ่งทุกทักษะคะแนนถึง 6.5 ตามเกณฑ์ที่ King’s College London กำหนด และสามารถสมัครเข้าศึกษาต่อได้สำเร็จ ทำให้แผนเรียนต่ออังกฤษของน้องเอิร์ธสมบูรณ์แบบ ณ มหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝัน

เมื่อถามว่าการสมัครเข้า King’s College London ครั้งนี้ขั้นตอนไหนยากที่สุด น้องเอิร์ธตอบทันทีว่าการสอบ IELTS ยากที่สุดแล้ว แม้แต่การสอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศจากสำนักงาน ก.พ. ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับน้องเอิร์ธ แต่การสอบ IELTS ทำให้รู้สึกอ่อนล้า หลังสอบเสร็จ น้องเอิร์ธยังเล่าอีกว่าได้เอาตัวเองออกห่างจากภาษาอังกฤษต่อเนื่องไปนานถึง 3 วัน จากเดิมที่เคยชอบฟังวิทยุภาษาอังกฤษ ก็หยุดฟังไปก่อนและเปลี่ยนไปฟังภาษาไทยทั้งหมด เพราะช่วงก่อนสอบติวหนักมาก มีทั้งที่ติวกับครูเจี๊ยบและยังดูวิดีโออื่นๆ เพิ่มเติม จนรู้สึกเครียด


 


อะไรที่ทำให้สอบ IELTS ผ่านเกณฑ์ 

 

ต้องบอกก่อนว่าปัญหาหลักๆ ของน้องเอิร์ธคือพาร์ท Writing Task 1 ที่น้องเอิร์ธไม่สามารถจับจุดเด่นของข้อมูลในโจทย์ได้ ทำให้เขียนคำตอบไม่ตรงประเด็น และสิ่งที่ทำให้น้องเอิร์ธสอบ IELTS ผ่านเกณฑ์ก็คือเทคนิคของครูเจี๊ยบที่แนะนำว่าให้ “พยายามจับกลุ่มข้อมูลให้ได้” เพราะข้อสอบ Task 1 หลักๆ เลยคือต้องเขียนว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง และที่สำคัญคือต้องเปรียบเทียบข้อมูลในโจทย์ให้ได้ หากจับกลุ่มข้อมูลไม่ดี ก็จะทำให้การเปรียบเทียบยากไปด้วย โดยครูเจี๊ยบจะสอนว่ากลุ่มไหนควรจับกลุ่มแบบไหน เพื่อให้เขียนออกมาได้ง่ายที่สุด 

นอกจากนี้น้องเอิร์ธยังเล่าว่าครูเจี๊ยบจะมีประโยคพร้อมใช้ให้ด้วย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลานึกคำในห้องสอบมากเกินไป บางประโยคเป็น Pattern ที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้เลย เพียงแค่นำข้อมูลในโจทย์มาใส่ในประโยคที่มี จึงช่วยให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น เหมือนจัดระบบความคิดได้ด้วย ว่าตรงไหนควรเขียนแบบไหน แล้ว Paragraph ต่อไป ควรจะเขียนแบบไหน 


 


แนะนำวิธีการเตรียมตัว

 

หลังจากได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศจาก ก.พ. (ทุน UIS) มาแล้ว ก่อนถึงวันเปิดรับสมัครของ King’s College London เป็นเวลา 1 ปี น้องเอิร์ธก็เริ่มค้นหาข้อมูลว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งนอกจากคะแนน IELTS ตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย ก็ต้องใช้ Resume, Statement of Purpose, Transcript และ Letter Recommendation 

เอกสารที่ใช้เวลาในการเตรียมค่อนข้างนานคือ Letter Recommendation เพราะต้องติดต่ออาจารย์ และตัวอาจารย์เองก็มีงานประจำที่ต้องทำ จึงใช้เวลามากพอสมควรในการรอเอกสารจากอาจารย์ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรเผื่อเวลาเอาไว้เยอะๆ จะดีที่สุด สำหรับการเตรียมเอกสารส่วนนี้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวการไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยทุน ก.พ. และคะแนน IELTS ของน้องเอิร์ธ ที่สามารถพิชิตมหาวิทยาลัยในฝัน King’s College London ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ติดอันดับ Top 50 ของโลก แม้จะเคยท้อแท้จนเกือบเปลี่ยนเส้นทางไปสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่น แต่สุดท้ายก็สามารถทำตามเป้าหมายได้ในที่สุด หวังว่าเรื่องราวของน้องเอิร์ธในครั้งนี้ คงจะเป็นข้อมูลดีๆ สำหรับคนที่อยากเรียนต่ออังกฤษคนอื่นๆ งานนี้บอกเลยว่าถ้าเตรียมตัวดี ก็มีชัยไม่กว่าครึ่ง

 

✅ อยากเรียนต่อต่างประเทศ
✅ อยากชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ
✅ อยากเข้า ม.ดัง ติดอันดับโลก
✅ ต้องมีคะแนน IELTS ติดไว้

  • คอร์ส IELTS ครูเจี๊ยบติวจัดให้ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
  • ติวละเอียดรูปแบบข้อสอบทุกแบบที่ต้องเจอ ไม่ต้องเสียเวลางมเอง
  • เทคนิคการทำโจทย์แบบที่ต่างกันเช่น การทำโจทย์แบบ Yes/No/Not Given
  • วิธีเก็งคำตอบ และ pattern ในการเขียน และพูด
  • ตรวจ แนะนำงานเขียน (จากในคอร์ส) ฟรี!
  • ครูเจี๊ยบมีประสบการณ์ติว IELTS มายาวนานกว่า 20 ปี

 

สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น

โทร : 098-281-3164




ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย https://www.opendurian.com/ielts_fullcourse/

โดย Wowprae.m
สินค้าที่เกี่ยวข้อง