10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ Work and holiday

10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ Work and holiday

Work and holiday เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ จากกลุ่มคนที่อยากไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ ซึ่งออสเตรเลียก็เป็นเป้าหมายของคนไทยกลุ่มนั้นหลายๆ คน โดยโครงการนี้จะช่วยสานฝันให้คนที่มีความต้องการในเรื่องดังกล่าวเป็นจริง สามารถเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียได้อย่างถูกกฎหมาย ครั้งนี้ทางบทความได้รวบรวม 10 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับโครงการนี้โดยเฉพาะ ดังนี้

10 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับ Work and holiday

 

 

1.Work and holiday คืออะไร

 

Work and holiday คือโครงการที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้ไปใช้ชีวิตในออสเตรเลียเป็นเวลา 1 ปี สามารถทำงานหาประสบการณ์ได้ภายในเวลากำหนด หรือลงเรียนระยะสั้นได้ หลายครั้งถูกเรียกสั้นๆ ว่า WAH เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อสร้างมิตรภาพและกระชับความสัมพันธ์ระดับเยาวชน 

2.Work and holiday เป็นโครงการที่ดูแลโดยหน่วยงานอะไร

 

โครงการ WAH เป็นโครงการที่ดูแลโดย “กรมกิจการเด็กและเยาวชน” ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาล ที่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวัฒนธรรมในออสเตรเลีย จึงมั่นใจได้ว่าการเดินทางไปยังออสเตรเลียผ่านโครงการดังกล่าว เป็นการเดินทางแบบถูกกฎหมาย 

 

3.สมัคร Work and holiday ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

 

ในการสมัครโครงการ WAH ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนด ได้แก่ 

 

  • มีอายุ 18-30 ปีในวันสมัคร
  • ต้องสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีในวันที่สมัคร
  • ต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีคะแนน IELTS ไม่ต่ำกว่า 4.5 
  • ต้องมีเงินในบัญชี 5,000 AUD ขึ้นไปหรือประมาณ 120,000 THB

4.Work and holiday อยู่ออสเตรเลียได้กี่ปี

 

โดยปกติคนที่เดินทางไปออสเตรเลียผ่านการสมัคร WAH สามารถอาศัยอยู่ในออสเตรเลียได้นาน 1 ปี แต่ในบางกรณีสามารถต่ออายุวีซ่าให้อยู่ต่ออีก 1 ปีได้ โดยจะต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนด แต่ถ้าหากไม่ได้ทำเรื่องต่ออายุวีซ่า จะต้องเดินทางกลับไทยหลังจากอยู่ครบ 1 ปี

 

5.อยากอยู่ออสเตรเลียนานกว่า 1 ปี ทำอย่างไร

 

หากต้องการอยู่ออสเตรเลียนานกว่า 1 ปี ผู้ถือวีซ่าจะต้องทำงานตามข้อกำหนดของวีซ่า และต้องทำงานในพื้นที่ที่กำหนดตาม post code เช่น งานฟาร์ม งานบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ผู้สมัครต้องตรวจสอบข้อมูลในส่วนนี้เสมอ เพราะในแต่ปีรายชื่องานกับพื้นที่อาจแตกต่างกัน โดยจะสามารถต่ออายุวีซ่าได้อีก 1 ปี กลายเป็นทั้งหมด 2 ปี

 

6.เปิดรับสมัครเมื่อไร

 

ในแต่ละปีอาจเปิดรับสมัครช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ต้องติดตามข่าวสารปีต่อปี โดยในปี 2023 ได้กำหนดวันกดโควต้าคือ 30 มิ.ย. ส่วนในปี 2022 กดโควต้ารอบแรกช่วงเดือน ก.ค. และรอบ 2 กดโควต้า 9 พ.ย. ส่วนในปี 2020 ซึ่งเปิดรับสมัคร 2 รอบเช่นกัน ในรอบแรกกดโควต้าเดือน มิ.ย. ส่วนในรอบ 2 กดโควต้าช่วงเดือน ม.ค. 2021 หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าวันกดโควต้า WAH มักอยู่ในช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค. 

 

7.วีซ่า Work and holiday ทำงานอะไรได้บ้าง

 

จริงๆ แล้วผู้ที่สมัครโครงการ WAH สามารถทำงานได้ทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นงานฟาร์ม งานร้านอาหาร งานขาย งานนวด หรือแม้แต่งานออฟฟิศ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าจะต้องทำงานกับนายจ้างเดิมไม่เกิน 6 เดือน 

 

8.Work and holiday ต่อยอดขอวีซ่า PR อย่างไร

 

การทำงานเก็บประสบการณ์ที่ออสเตรเลีย สามารถต่อยอดไปสู่ PR (พลเมืองถาวรออสเตรเลีย) ได้ เพราะประสบการณ์การทำงานนำไปเก็บเป็น Point test ได้ แต่ที่สำคัญคือต้องหานายจ้าง Sponser ให้ ทำให้ WAH เป็นอีกหนึ่งใบเบิกทางในการเป็นพลเมืองออสเตรเลีย 

 

9.เตรียมตัวสมัคร Work and holiday ต้องเริ่มเมื่อไร

 

ในการเตรียมตัวสมัคร WAH ไม่จำเป็นต้องรอให้ WAH เปิดรับสมัครก่อนแล้วค่อยเตรียมตัว สิ่งสำคัญที่ต้องรีบเตรียมคือคะแนนสอบภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าหากใช้ IELTS จะต้องรีบสอบ IELTS แต่เนิ่นๆ เพราะปัญหานี้พบบ่อย เมื่อหลายคนรอให้ WAH ประกาศรับสมัครก่อนแล้วจึงไปสมัครสอบ IELTS แต่ด้วยจำนวนคนที่สมัครเยอะ จนรอบสอบเต็มและหลายๆ คนที่สมัครไม่ทันคนอื่น ก็ไม่สามารถสอบได้ทันเวลา ที่สำคัญหลังสอบจะต้องรอผลคะแนนออกอีก หากคะแนนออกไม่ทันวันยื่นโควต้า WAH ก็ไม่สามารถสมัครได้ 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าบางคนสอบครั้งแรกไม่ได้ IELTS ถึง 4.5 ต้องสอบแก้ตัวใหม่ ยิ่งเป็นปัญหาถ้าหากไปสอบในช่วงเวลาที่กระชั้นชิดกับวันสมัคร WAH จึงอยากแนะนำว่า ถ้าสนใจสมัคร WAH ควรเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นไปได้ก็เตรียมตัวล่วงหน้าไว้สัก 1 ปี หรือไม่ก็ 6 เดือน 

 

10.ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ในการสมัคร Work and holiday คืออะไร

 

อีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะบอกกับทุกคนที่สนใจสมัคร WAH ก็คือนอกจากคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผู้สมัครต้องมีในวันสมัครแล้ว ยังมีเรื่องของปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องของดวงในการกดโควต้า แม้ว่าผู้สมัครจะมีอายุตามเงื่อนไขที่กำหนด มีวุฒิ ป.ตรี และมีคะแนนภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ รวมถึงมีเงินในบัญชีตามข้อกำหนด แต่ถ้ากดโควต้าไม่ได้ ก็ไม่สามารถสมัคร WAH ได้สำเร็จเช่นกัน  

 

ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการกดโควต้า คืออยากให้ทุกคนเตรียมอินเทอร์เน็ตให้พร้อม เพราะคนจะเข้าไปแย่งกันกดเยอะมาก แน่นอนว่าผู้ที่สนใจมีจำนวนมากกว่าจำนวนที่โครงการเปิดรับ หากอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงก็มีสิทธิที่จะกดได้มากกว่าคนที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำกว่า อาจจะเตรียมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยสาย LAN เพื่อเพิ่มความเสถียรของอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 


 

สมัคร Work and Holiday ต้องมีคะแนน IELTS

  • คอร์ส IELTS ครูเจี๊ยบติวจัดให้ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
  • ติวละเอียดรูปแบบข้อสอบทุกแบบที่ต้องเจอ ไม่ต้องเสียเวลางมเอง
  • เทคนิคการทำโจทย์แบบที่ต่างกันเช่น การทำโจทย์แบบ Yes/No/Not Given
  • วิธีเก็งคำตอบ และ pattern ในการเขียน และพูด
  • ตรวจ แนะนำงานเขียน (จากในคอร์ส) ฟรี!
  • ครูเจี๊ยบมีประสบการณ์ติว IELTS มายาวนานกว่า 20 ปี

 

สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น

โทร : 098-281-3164

ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย


 

โดย Wowprae.m
สินค้าที่เกี่ยวข้อง