Portfolio แพทย์ อยากติดหมอรอบแรกต้องทำอย่างไรบ้าง?

Portfolio แพทย์ อยากติดหมอรอบแรกต้องทำอย่างไรบ้าง?

แจกข้อมูลรายละเอียดสำหรับคนอยากเป็นหมอ และต้องการจะติดหมอตั้งแต่รอบแรกด้วยการยื่น  Portfolio แพทย์ ที่กลายเป็นทางเลือกแรกของน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะยื่นพอร์ตคณะแพทย์ จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง

Portfolio แพทย์ อยากติดหมอรอบแรกต้องทำอย่างไรบ้าง?

 

Portfolio แพทย์ ต้องมีอะไรบ้าง?

 

ก่อนอื่นอยากให้คนที่อยากเป็นหมอทุกคนมาดูกันก่อนว่าในการยื่น Portfolio แพทย์ จะต้องมีอะไรบ้าง เพราะไม่ใช่แค่ Portfolio เท่านั้น แต่ยังมีเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งต้องการให้มีในการยื่นพอร์ตคณะแพทย์ด้วยเสมอ และเอกสารเหล่านั้นสำคัญต่อการพิจารณาของคณะกรรมการ ทั้งยังส่งผลโดยตรงว่าผู้สมัครจะติดหมอตั้งแต่รอบแรกหรือไม่อีกต่างหาก โดยสิ่งที่ต้องมี ได้แก่

 

Portfolio แพทย์ ควรมีผลงานแบบไหนบ้าง?

 

ใครที่อยากเป็นหมอและต้องการยื่นพอร์ตคณะแพทย์ แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องมีคือ Portfolio และต้องเป็น Portfolio คุณภาพที่ไม่ใช่แค่พอร์ตสวยอย่างเดียว แต่การนำเสนอเพื่อให้ติดหมอตั้งแต่รอบแรก ต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประกอบอาชีพแพทย์ในอนาคตได้ หรือแสดงให้เห็นถึงความสนใจในด้านแพทยศาสตร์อย่างแท้จริง


เรื่องการยื่น Portfolio มีน้องที่อยากเป็นหมอหลายคนหลงประเด็นไปมาก และส่วนใหญ่คิดว่าพอร์ตสวยจะทำให้โดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่น ทั้งที่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย แต่เนื้อหาในพอร์ตนั้นต่างหากที่สำคัญ ถ้าต้องการติดหมอตั้งแต่รอบแรก

หากเป็น Portfolio แพทย์ สิ่งที่ควรมีในนั้นคือผลงานที่แสดงความเป็นเลิศทางวิชาการ เช่น เกียรติบัตรที่แสดงถึงชัยชนะหรือแสดงถึงการเข้าร่วมการแข่งขันทางวิชาการ ภาพถ่ายที่แสดงถึงการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณะแพทยศาสตร์ แสดงถึงความสนใจของผู้สมัครว่าสนใจด้านนั้นอย่างแท้จริง เช่นภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรม Open House คณะแพทยศาสตร์ เป็นต้น

 

ยกตัวอย่างผลงานที่ควรมีใน Portfolio แพทย์

 

  • เกียรติบัตรชนะเลิศหรือรองชนะเลิศการแข่งขันคณิตศาสตร์
  • เกียรติบัตรชนะเลิศหรือรองชนะเลิศการแข่งขันวิทยาศาสตร์
  • เกียรติบัตรชนะเลิศหรือรองชนะเลิศการแข่งขันชีววิทยา
  • เกียรติบัตรชนะเลิศหรือรองชนะเลิศการแข่งขันเคมีวิทยา
  • เกียรติบัตรแสดงการเข้าร่วมการแข่งขันในวิชาต่างๆ
  • เกียรติบัตรแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายแพทย์
  • ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรมค่ายแพทย์
  • ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรม Open House คณะแพทยศาสตร์

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างผลงานที่ควรมีใน Portfolio แพทย์เท่านั้น นอกจากนี้อาจมีผลงานอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประกอบอาชีพแพทย์ในอนาคตได้ หรือแสดงให้เห็นถึงความสนใจในด้านแพทยศาสตร์ได้เช่นกัน สำหรับคนที่อยากเป็นหมอหรืออยากติดหมอ ก็ควรมีความสนใจที่เข้มข้นในเรื่องของศึกษาต่อด้านนี้โดยตรง และมีความสามารถอันเป็นเลิศทางด้านวิชาการ


 


 

ผลการเรียนในการยื่น Portfolio แพทย์ ควรเป็นเท่าไร?

 

ใครที่อยากเป็นหมอและต้องการยื่น Portfolio แพทย์ จำเป็นต้องทำผลการเรียนที่ดีอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ ม.4 ในเรื่องของผลการเรียนจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ทางคณะและมหาวิทยาลัยนั้นๆ กำหนด ซึ่งแพทยศาสตร์แต่ละมหาวิทยาลัยก็กำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน 

 

  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบ Portfolio แพทย์ จุฬา คือไม่กำหนดขั้นต่ำ ไม่ว่าผู้สมัครจะมี GPAX หรือ GPA เท่าไรก็สามารถยื่นพอร์ตคณะแพทย์ จุฬาฯ ได้
  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบPortfolio แพทย์ รามาฯ มหิดล ผู้สมัครจะต้องมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.50 จึงจะมีสิทธิยื่นพอร์ตคณะแพทย์ รามาฯ มหิดล 
  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบ Portfolio แพทย์ มศว. ผู้สมัครจะต้องมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 จึงจะมีสิทธิยื่นพอร์ตคณะแพทย์ มศว.
  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบ Portfolio แพทย์ ม.ขอนแก่น คือไม่กำหนดขั้นต่ำ ไม่ว่าผู้สมัครจะมี GPAX หรือ GPA เท่าไรก็สามารถยื่นพอร์ตคณะแพทย์ ขอนแก่นได้ 
  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบ Portfolio แพทย์ ม.เชียงใหม่ ผู้สมัครจะต้องมี GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 และต้องมี GPA ชีววิทยา GPA เคมี และ GPA ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวมไม่น้อยกว่า 3.00 จึงจะมีสิทธิยื่นพอร์ตคณะแพทย์ ม.เชียงใหม่ 
  • ผลการเรียนที่ต้องมีรอบ Portfolio แพทย์ ม.สงขลา มี GPA กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เฉลี่ยรวมไม่น้อยกว่า 3.25 จึงจะมีสิทธิยื่นพอร์ตคณะแพทย์ ม.สงขลา 

 

ตารางสรุปการใช้ผลการเรียนรอบ Portfolio แพทย์

 

คณะ

มหาวิทยาลัย

GPAX

GPA

แพทยศาสตร์

จุฬา

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

รามาฯ มหิดล

3.50+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

มศว.

3.00+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.ขอนแก่น

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.เชียงใหม่

3.00+

ชีววิทยา ≥ 3.00

เคมี ≥ 3.00

ภาษาอังกฤษ ≥ 3.00 

ม.สงขลา

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

วิทย์และเทคโนฯ ≥ 3.25

คณิต ≥ 3.25 

ทันตแพทยศาสตร์

จุฬา

3.75+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

มหิดล

3.50+

วิทย์ ≥ 3.50

คณิต ≥ 3.50

ภาษาอังกฤษ ≥ 3.50

ภาษาไทย ≥ 3.00

สังคมศึกษา ≥ 3.00

มศว.

3.75+

เคมี ≥ 3.50

ชีววิทยา ≥ 3.50

ม.ขอนแก่น

3.50+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.เชียงใหม่

3.75+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.สงขลา

3.50+

วิทย์และเทคโนฯ ≥ 3.50  

คณิต ≥ 3.50 

ภาษาต่างประเทศ ≥ 3.50

ภาษาไทย  ≥ 3.00

สังคมศึกษา ≥ 3.00

สัตวแพทยศาสตร์

จุฬา

3.50+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

มหิดล

3.50+

เคมี ≥ 3.50

ฟิสิกส์ ≥ 3.50

ชีววิทยา ≥ 3.50

คณิตศาสตร์ ≥ 3.50

ภาษาอังกฤษ ≥ 3.50

เกษตรศาสตร์

3.50+

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

 

 

คะแนน BMAT ในการยื่น Portfolio แพทย์ ควรเป็นเท่าไร?

 

ใครที่อยากติดหมอรอบแรกต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับคะแนนสอบ BMAT เพราะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการยื่น Portfolio แพทย์ เนื่องจากการยื่นรอบนี้ ไม่ต้องสอบ กสพท. จึงมักทดสอบความสามารถด้วยคะแนน BMAT แทน ซึ่งการสอบ BMAT คือ ข้อสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์, สัตวแพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ ย่อมาจาก BioMedical Admission Test จัดทำโดย Cambridge Assessment แห่งสหราชอาณาจักร 

 

  • ผลคะแนน BMAT รอบ Portfolio แพทย์ จุฬา คือไม่กำหนดขั้นต่ำ แต่จะนำมาคิดตามสัดส่วนเพื่อหาคนที่มีคะแนนสูงสุดตามจำนวนรับเข้าศึกษา โดยค่าน้ำหนักคือ Section 1 และ 2 ค่าน้ำหนัก 40% ส่วน Section 3 ค่าน้ำหนัก 20%
  • ผลคะแนน BMAT รอบ Portfolio แพทย์ รามาฯ มหิดล ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน BMAT รวมทั้ง 3 Section ไม่ต่ำกว่า 12 และ Section 1 และ 2  ไม่ต่ำกว่า 4.5 ส่วน Section 3 ต้องไม่ต่ำกว่าระดับ C
  • ผลคะแนน BMAT รอบ Portfolio แพทย์ มศว. คือไม่กำหนดขั้นต่ำ
  • ผลคะแนน BMAT รอบ Portfolio แพทย์ ม.ขอนแก่น ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน BMAT Section 1 และ 2 รวมกันเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 ส่วน Section 3 ไม่กำหนดขั้นต่ำ 
  • ผลคะแนน BMAT รอบ Portfolio แพทย์ ม.เชียงใหม่ ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน BMAT รวมทั้ง 3 Section ไม่ต่ำกว่า 12C 
  • Portfolio แพทย์ ม.สงขลา ไม่ใช้คะแนน BMAT

 

ตารางสรุปการใช้ BMAT รอบ Portfolio แพทย์

 

คณะ

มหาวิทยาลัย

BMAT

แพทยศาสตร์

จุฬาฯ

ไม่กำหนดขั้นต่ำ แต่นำไปคิดตามสัดส่วนเพื่อหาผู้ที่มีคะแนนสูงสุดประกอบการพิจารณาเข้ารับศึกษา ดังนี้

 
  • Section 1 ค่าน้ำหนัก 40%
  • Section 2 ค่าน้ำหนัก 40%
  • Section 3 ค่าน้ำหนัก 20%

รามาฯ มหิดล

รวมทั้ง 3 Section ≥ 12 

Section 1 ≥ 4.5

Section 2 ≥ 4.5 

Section 3 ≥ C

มศว.

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.ขอนแก่น

Section 1 และ 2 รวมกันเฉลี่ย ≥ 4.5 

Section 3 ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.เชียงใหม่

รวมทั้ง 3 Section ≥ 12C 

ม.สงขลา

ไม่ใช้คะแนน BMAT

ทันตแพทยศาสตร์

จุฬา

ไม่ใช้

มหิดล

ไม่ใช้

มศว.

คะแนนรวม 3 Section ≥ 10.0 

Section 3 ≥ C 

ม.ขอนแก่น

Section 1 และ Section 2 รวมกันเฉลี่ย ≥ 4 Section 3 ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ         

ม.เชียงใหม่

ไม่กำหนดขั้นต่ำ

ม.สงขลา

Section 1 และ Section 2 รวมกันเฉลี่ย ≥ 4.5

Section 3 ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ

 

ในส่วนของคะแนน BMAT มักไม่ต้องใช้ในการยื่นพอร์ตคณะสัตวแพทยศาสตร์ จะมีก็แต่เพียงกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำและ IELTS ขั้นต่ำ 


 

 

คะแนน IELTS ในการยื่น Portfolio แพทย์ ควรเป็นเท่าไร?

 

การยื่นพอร์ตคณะแพทย์ ยังมีคะแนนอีกส่วนหนึ่งสำคัญก็คือคะแนนภาษาอังกฤษ ซึ่งคะแนน IELTS เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง หากมีการกำหนดว่าต้องใช้คะแนนภาษาอังกฤษ ทุกมหาวิทยาลัยในไทยยอมรับ IELTS ทำให้ในการยื่นพอร์ตคณะแพทย์ จำเป็นต้องสอบ IELTS เก็บไว้ โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำแตกต่างกันออกไป 

 

  • ผลคะแนน IELTS รอบ Portfolio แพทย์ จุฬา กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 7.0
  • ผลคะแนน IELTS  รอบ Portfolio แพทย์ รามาฯ มหิดล กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 6.5
  • ผลคะแนน IELTS รอบ Portfolio แพทย์ มศว. กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 7.0
  • ผลคะแนน IELTS  รอบ Portfolio แพทย์ ม.ขอนแก่น กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 5.0
  • ผลคะแนน IELTS  รอบ Portfolio แพทย์ ม.เชียงใหม่ กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 6.5 
  • ผลคะแนน IELTS รอบ Portfolio แพทย์ ม.สงขลา กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 6.0

 

ารางสรุปเกณฑ์ขั้นต่ำ IELTS รอบ Portfolio แพทย์

 

คณะ

มหาวิทยาลัย

IELTS

แพทยศาสตร์

จุฬาฯ

7.0+

รามาฯ มหิดล

6.5+

มศว.

7.0+

ม.ขอนแก่น

5.0+

ม.เชียงใหม่

6.5+

ม.สงขลา

6.0+

ทันตแพทยศาสตร์

จุฬา

7.0+

มหิดล

6.5+

มศว.

6.5+

ม.ขอนแก่น

5.5+

ม.เชียงใหม่

6.5+

ม.สงขลา

6.5+

สัตวแพทยศาสตร์

จุฬา

5.5+

มหิดล

5.0+

เกษตรศาสตร์

6.0+

 

ทั้งนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทยเท่านั้น หากเป็นนักเรียนในระบบนานาชาติ จะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครที่แตกต่างออกไป

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลรายละเอียดที่คนอยากติดหมอตั้งแต่รอบแรกต้องรู้ เพราะเป็นข้อมูลการยื่น Portfolio แพทย์จากสถาบันต่างๆ โดยรอบแรกเป็นรอบที่คนอยากเป็นหมอทุกคนไม่ควรปล่อยผ่าน เพื่อกันพลาดสำหรับการสมัครในรอบถัดๆ ไป โดยรอบการรับสมัครมี 3 รอบ ได้แก่ รอบ Portfolio รอบ Quota และรอบ Admission หากพลาดรอบ Portfolio ก็ยังเหลืออีก 2 รอบให้แก้ตัว แต่ถ้าปล่อยรอบพอร์ตคณะแพทย์ผ่านไป ก็จะมีโอกาสเพียงแค่ 2 รอบเท่านั้น 

 

อยากติดหมอรอบแรก ต้องมีคะแนน IELTS

 

  • คอร์ส IELTS ครูเจี๊ยบติวจัดให้ครบทั้ง Listening/Reading/Writing/Speaking
  • ติวละเอียดรูปแบบข้อสอบทุกแบบที่ต้องเจอ ไม่ต้องเสียเวลางมเอง
  • เทคนิคการทำโจทย์แบบที่ต่างกันเช่น การทำโจทย์แบบ Yes/No/Not Given
  • วิธีเก็งคำตอบ และ pattern ในการเขียน และพูด
  • ตรวจ แนะนำงานเขียน (จากในคอร์ส) ฟรี!
  • ครูเจี๊ยบมีประสบการณ์ติว IELTS มายาวนานกว่า 20 ปี

สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น

โทร : 098-281-3164

 

 

 

ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย

โดย Wowprae.m
สินค้าที่เกี่ยวข้อง