รู้จักทุน Fulbright โท-เอก เรียนต่ออเมริกา พร้อมข้อแนะนำ GPAX IELTS และอื่นๆ

ถ้าพูดถึงเรื่องของทุนเรียนต่อต่างประเทศ หนึ่งทุนที่หลายคนรู้จักและอยากได้ก็คือทุน Fulbright โดยทุนนี้เป็นทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่มอบให้กับผู้ที่สนใจศึกษาต่อในอเมริกาได้เข้ากระบวนการคัดเลือก เพื่อรับทุนและได้ไปเรียนต่อ หรือแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการในสาขาที่สนใจ จุดประสงค์หลักของโครงการนี้ ก็เพื่อสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก และสำหรับใครที่อยากจะสมัครทุนนี้ เราก็มีข้อแนะนำดีๆ มาฝาก เพื่อเป็นตัวช่วยสานฝันให้น้องๆ ทุกคน สามารถคว้าทุน เดินทางไปเรียนต่อได้สำเร็จ

รู้จักทุน Fulbright โท-เอก เรียนต่ออเมริกา พร้อมข้อแนะนำ GPAX IELTS และอื่นๆ

ทุน Fulbright คืออะไร?

เป็นทุนเพื่อการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่นอกจากจะมีค่าเล่าเรียนให้แล้ว ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ค่าขนย้ายสัมภาระกลับประเทศไทย และอื่นๆ

ทุน Fulbright ค่าใช้จ่าย

ปีแรก $35,500 และปีที่สอง $17,500 พร้อมด้วย ค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ค่าขนย้ายสัมภาระกลับประเทศไทย และอื่นๆ (ข้อมูลสมัครทุน Fulbright 2021)

สมัครทุน Fulbright ต้องส่งอะไรบ้าง

สำหรับเอกสารที่ต้องส่งเพื่อสมัครทุนนี้ ได้แก่ ใบสมัคร Letter of Recommendation 2 ฉบับ Biographical statement และ Proposed Program Plan ส่วนของเอกสารที่ต้องส่งนี่เองที่สำคัญมาก มีข้อแนะนำมาฝาก ดังนี้

Letter of Recommendation

สำหรับส่วนนี้เป็นจดหมายรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิ แนะนำคือ “ไม่จำเป็นต้องหาคนตำแหน่งใหญ่โต” มารับรอง สำคัญคือควรเป็นคนที่รู้จักกับผู้สมัครเป็นอย่างดี เช่น อาจารย์ที่รู้จักกับผู้สมัคร และสามารถเล่าเรื่องราวของผู้สมัครได้ มากกว่าการเขียนแค่เพียงว่าผู้สมัครมีเกรดเฉลี่ยที่ดี เรียนดี เพราะสิ่งนั้นปรากฏอยู่ในเอกสารรับรองผลการศึกษาของผู้สมัครอยู่แล้ว

ข้อความที่ดีคือการอธิบายได้ว่าผู้สมัครมีข้อดีอะไร มีจุดเด่นหรือคุณสมบัติอะไรบ้างที่น่าสนใจ เช่น เป็นคนชอบเข้าร่วมกิจกรรม เป็นคนมุ่งมั่น เป็นคนมีควาามพยายาม เป็นคนมั่นใจ ฯลฯ LOR ที่น่าสนใจ คือจดหมายที่มีเนื้อหาแสดงความคิดเห็นจากมุมมองของผู้เขียนที่มีต่อตัวผู้สมัคร ทำให้กรรมการมองเห็นภาพมากขึ้นเกี่ยวกับตัวผู้สมัคร

Biographical statement

อีกหนึ่งส่วนสำคัญในการสมัครทุน Fulbright ก็คือ Biographical statement หรือการเขียนแนะนำตัวเอง มีข้อจำกัดคือความยาวเพียง 400 คำเท่านั้น สิ่งที่อยากแนะนำสำหรับการทำจดหมายส่วนนี้ คือพยายามเขียนให้สมจริง ไม่แนะนำให้เขียนข้อมูลเกินจริง เพราะจะเนื้อหาที่สื่อสารออกมาจะดูไม่เป็นธรรมชาติ และอย่าลืมว่ากรรมการมีประสบการณ์สูงมาก ในการอ่านเอกสารเหล่านี้ พวกเขาย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่เขียนออกมานั้นสมจริงหรือไม่ จึงอยากแนะนำให้เขียนเรื่องจริงจะดีที่สุด พยายามงัดข้อดีของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด แล้วอธิบายลงไปให้เขารู้จักตัวตนของเรา แต่ควรเกี่ยวกับเรื่องเรียนด้วย

นอกจากนี้ศิลปะการเขียนก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยทำให้จดหมายฉบับนั้นน่าอ่านมากน้อยแค่ไหน ลำดับการเขียนอาจแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล บางคนเลือกเล่าผูกกับความประทับใจ บางคนเลือกเล่าเรื่องที่ผูกกับประสบการณ์ แนะนำว่าพยายามวางโครงเรื่องให้ดี เล่าเป็นระบบ ให้อ่านง่าย อย่าวนไปวนมา หรือสลับไปมา ทำให้เนื้อหาขาดความต่อเนื่อง

Proposed Program Plan

อีกหนึ่งส่วนสำคัญสำหรับการสมัครทุน Fulbright ก็คือการเขียนถึงวัตถุประสงค์ในการเลือกแผนเรียน ต้องเขียนบอกว่าทำไมถึงอยากเรียนสาขานี้ ทำไมถึงอยากได้ทุนนี้ และทำไมถึงสนใจเรียนต่อที่อเมริกา แนะนำให้หยิบยกการกิจกรรมที่ทำ งานวิจัย และประสบการณ์การศึกษาที่ผ่านมา สิ่งที่อยากทำในอนาคต สายงานที่สนใจ มาเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ที่เลือกเรียนสาขาเหล่านี้ ก่อนเขียนลองร่างๆ มาก่อนว่าเคยทำอะไรมาบ้าง แล้วได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ลิสต์เป็นข้อๆ ก่อนจะเอาทั้งหมดมาร้อยเรียงกันเป็น Essay ที่สละสลวย

เกณฑ์การสมัครทุน

สมัครทุนปริญญาโท GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00 IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5
สมัครทุนปริญญาเอก GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.50 IELTS ไม่ต่ำกว่า 7.5

หลายคนมักมีคำถามว่าสมุครทุน Fulbright ยากไหม ให้สังเกตที่จำนวนทุนที่แจก มักไม่เกินเลขตัวเดียว อย่างเช่นปี 2021 ก็แจกเพียง 7 ทุนเท่านั้น ท่ามกลางคนที่ต้องการจำนวนมาก ความยากจึงแปรผันตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้นใครที่สนใจต้องเตรียมตัวให้ดี เพื่อพิชิตความฝันให้สำเร็จ

หมายเหตุ ข้อมูลการรับสมัครปี 2021 สาขาที่ถูกยกเว้นคือ แพทยศาสตร์และพยาบาล รวมไปถึงสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ต้องมีการปฏิบัติการทางคลินิก สาขานอกจากนี้สามารถสมัครได้ (รู้จักทุนอเมริกาเพิ่มเติม)

✅ อยากได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศ
✅ อยากเรียนต่อต่างประเทศ
✅ อยากเรียนต่ออเมริกา
✅ อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยดัง
✅ อยากสอบติด ม.ดัง ระดับโลก
✅ ต้องมีคะแนน IELTS ติดไว้