ทำงานต่างประเทศ ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง คนที่ยังไม่รู้อะไรเลยต้องอ่าน!!

บทความนี้จะขอเล่าคร่าวๆ สำหรับคนที่อยากทำงานต่างประเทศ แบบถูกกฎหมาย ว่าต้องศึกษาเรื่องอะไรบ้าง อาจจะไม่ได้ลงลึกมากนัก แต่เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ทุกคนต้องรู้ก่อนที่จะลงรายละเอียดอีกที ถึงขั้นตอนการเก็บเงินหรือการเตรียมเอกสาร บทความนี้จะยังไม่แตะไปถึงตรงนั้น แต่จะขอเล่าข้อมูลพื้นฐาน เพื่อการเตรียมตัวเบื้องต้นก่อน เมื่อรู้แล้วว่าข้อมูลที่จะต้องรู้มีอะไร หลายๆ คนสามารถนำไปใช้ค้นหาข้อมูลรายละเอียดอย่างมีทิศทางมากขึ้น

ทำงานต่างประเทศ ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง คนที่ยังไม่รู้อะไรเลยต้องอ่าน!!

1.แรงงานที่ขาดแคลนของประเทศที่จะไป

ก่อนอื่นสำหรับคนที่อยากไปทำงานต่างประเทศ อยากให้ศึกษาข้อมูลดูก่อนว่า แรงงานในประเทศนั้นๆ ที่จะไป อะไรที่ยังขาดแคลน เพราะการเดินทางไปทำงานที่ตลาดแรงงานบ้านเขากำลังขาดแคลน จะช่วยเพิ่มโอกาสให้การทำงานต่างประเทศของเราเป็นไปได้สูงขึ้น อย่างเช่นพยาบาลวิชาชีพที่ออสเตรเลีย ซึ่งค่อนข้างขาดแคลนและความต้องการสูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดแรงงานออสเตรเลีย หากเราคิดที่จะไปเป็นพยาบาลที่ออสเตรเลีย โอกาสเป็นไปได้ก็สูงขึ้น

แต่สำหรับบางอาชีพก็ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ อย่างการเป็นพยาบาล ก็ต้องเรียนจบปริญญาตรีสาขาพยาบาล ต้องมีคะแนน IELTS ตามเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อสอบใบประกอบวิชาชีพ หรืออีกหลายๆ อาชีพที่ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ ดังนั้นผู้ที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศต้องไม่ลืมศึกษาตรงนี้ด้วย

เมื่อรู้แล้วว่าที่ไหนขาดแรงงานอะไรบ้าง ก็ลิสต์ๆ ไว้ แล้วเรียงลำดับตามความสนใจของตัวเอง แล้วศึกษารายละเอียดอื่นๆ ต่อไป

2.ประเภทวีซ่าที่อนุญาตให้ทำงานได้ของประเทศนั้นๆ

ในแต่ละประเทศจะมีวีซ่าหลากหลายประเภทมากๆ ผู้ที่สนใจอยากทำงานต่างประเทศ ต้องรู้ว่าวีซ่าไหนในประเทศอะไรที่อนุญาตให้ทำงานได้ อย่างวีซ่านักเรียนในอเมริกา จะไม่อนุญาตให้ทำงาน แต่ถ้าเป็นวีซ่านักเรียนในออสเตรเลีย สามารถทำงาน Part-Time ได้ 40 ชั่วโมง/2 สัปดาห์ สำหรับวีซ่าทำงานในอเมริกาก็มีความหลากหลาย เช่น วีซ่า H-1B, วีซ่า H-2A, วีซ่า H-2B, วีซ่า EB-3 เป็นต้น ซึ่งวีซ่าแต่ละประเภทมีข้อกำหนดแตกต่างกัน ผู้ที่จะสมัครได้ต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเหล่านั้น

วีซ่าทำงานในบางประเทศสามารถต่อยอดเป็น PR (Permanent Residence) หรือการเป็นพลเมืองถาวรได้ อย่างการทำงานในออสเตรเลีย หากสามารถหานายจ้างมาสปอนเซอร์ให้ได้ ก็มีโอกาสเปลี่ยนเป็น PR ได้ แต่การจะเป็น PR ต้องเก็บ Point Test คือ จะมีในเรื่องของอายุ ประสบการณ์ทำงาน คะแนน IELTS และอื่นๆ ที่จะต้องนำไปคิด Point Test อีกทีว่าคะแนนถึง 65 หรือไม่อย่างไร

3.ค่าใช้จ่าย

เมื่อได้รายชื่ออาชีพที่สนใจ และศึกษาในเรื่องของประเภทวีซ่าเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมศึกษาเรื่องค่าใช้จ่าย ส่วนนี้รายละเอียดค่อนข้างมาก หากไปอยู่ใจกลางเมือง แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก ในเรื่องของค่าที่พัก ค่ากิน ค่าอยู่ แต่ถ้าอยู่นอกเมือง อยู่ต่างจังหวัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าครองชีพก็จะลดลง ที่สำคัญในหลายๆ ประเทศ แรงงานที่ขาดแคลนก็มักจะอยู่ต่างจังหวัด

สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ประกอบด้วยค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าดำเนินการ ค่าเอกสารต่างๆ เช่น ค่าทำวีซ่า ค่าทำพาสปอร์ต เป็นต้น เรื่องนี้ต้องวางแผนให้ดี แต่ละคนมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเทศที่จะไป เมืองที่จะไป ต่างกันตั้งแต่เรื่องค่าเดินทางไปจนถึงค่าครองชีพ

4.เอกสารที่ต้องใช้

สำหรับการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องศึกษาเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ด้วย แต่ละประเทศและแต่ละประเภทวีซ่าก็ใช้เอกสารแตกต่างกันออกไป อีกทั้งบางประเทศยังมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของเอกสารอย่างต่อเนื่อง ต้องติดตามข่าวสารให้ดี การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในแต่ละประเทศก็มีส่วนมากในเรื่องนี้ อย่างเช่นในอเมริกา เมื่อโจ ไบเดน เข้ามาบริหารประเทศก็มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเรื่องการเปิดรับต่างชาติเข้าประเทศ และประกาศออกมาว่าจะลดขั้นตอนและลดเอกสารในการดำเนินการให้เหลือน้อยลง เพื่อส่งเสริมแรงงานต่างชาติมากขึ้น แตกต่างจากสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่การที่ต่างชาติจะเข้าประเทศอเมริกาได้นั้นมีความยุ่งยาก เพราะทรัมป์ค่อนข้างจะกีดกันชาวต่างชาติอยู่มาก

ทำงานต่างประเทศ เงินเดือนเท่าไร?

เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ สำหรับการทำงานต่างประเทศ เงินเดือนที่คนส่วนใหญ่ได้อยู่ที่เท่าไรกัน แต่คำถามนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควร เพราะแต่ละประเทศอัตราเงินเดือนไม่เท่ากัน และแต่ละอาชีพเงินเดือนก็ไม่เท่ากันด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางบทความก็มีอัตราเงินเดือนคร่าวๆ มาฝาก จากฐานข้อมูลที่เรามีในตอนนี้

พยาบาล ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 199,999 บาท
ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการ ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 130,000 บาท
โปรแกรมเมอร์ ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 210,000 บาท
ครูมัธยม ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 199,999 บาท
พนักงานจัดเรียงสินค้า ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 108,000 บาท
ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 170,000 บาท
ที่ปรึกษาระดับองค์กร ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 197,000 บาท
ที่ปรึกษาด้านการจัดการ ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 215,000 บาท
ผู้ดูแลสวน ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 110,000 บาท
ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 257,000 บาท
พนักงานจัดส่ง ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 104,000 บาท
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 137,000 บาท
ช่างเทคนิคอาคารและช่างเทคนิควิศวกรรมเครื่องกล ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 293,000 บาท
เภสัชกร ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 173,000 บาท
เภสัชกร แคนาดา เงินเดือนประมาณ 185,000 บาท
หมอ ประเทศอังกฤษ เงินเดือนประมาณ 1.18 ล้านบาท
หมอ ออสเตรเลีย เงินเดือนประมาณ 1.80 ล้านบาท
หมอ แคนาดา เงินเดือนประมาณ 4.83 ล้านบาท

ทำงานต่างประเทศ ถูกกฎหมาย

สำหรับการทำงานต่างประเทศ ถูกกฎหมาย ทางที่ดีควรเดินทางไปผ่านทางกรมจัดหางานของกระทรวงแรงงานจะเป็นการไปทำงานที่ถูกกฎหมาย 100% ทางกรมจะมีตำแหน่งงานประกาศรับสมัครที่หน้าเว็บไซต์ คลิกที่นี่ ซึ่งจะระบุตำแหน่งที่ต้องการและประเทศที่รับสมัครเอาไว้ พร้อมกับสามารถกดดูข้อมูลรายละเอียดได้ หากสมัครงานผ่านกระทรวงแรงงาน ก็จะเป็นการทำงานต่างประเทศ ถูกกฎหมาย

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายวิธีการที่สามารถทำงานต่างประเทศ ถูกกฎหมายได้ อย่างเช่นการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง ขอวีซ่าเองตามประเภทที่ตรงกับตำแหน่งงาน ซึ่งต้องการทำศึกษารายละเอียดเป็นกรณีไป อย่างเช่นการไปประกอบอาชีพที่แพทย์ พยาบาล ที่ต่างประเทศ ก็ต้องมีการสอบใบประกอบวิชาชีพที่ประเทศนั้นๆ ตามขั้นตอน เป็นต้น สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องการทำงานต่างประเทศ ถูกกฎหมายได้ที่เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน

ทำงานต่างประเทศ ภาษาอังกฤษต้องดีแค่ไหน?

สำหรับการทำงานต่างประเทศ ภาษาอังกฤษก็ควรจะดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงกับดีมากมาย แต่ควรสื่อสารได้ ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองโดนมิจฉาชีพล่อลวงไป ควรสื่อสารได้บ้าง อ่านเอกสารพอเข้าใจ สามารถลงนามแล้วปลอดภัย ไม่สร้างภาระให้กับตนเอง สังเกตได้จากข่าวหลายๆ ข่าวที่มีคนถูกล่อลวงไปทำงานต่างประเทศ มักไม่ได้ภาษาเลย ทำให้ถูกหลอกได้ง่าย เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ จึงกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ จึงควรมีทักษะภาษาอังกฤษติดตัวบ้าง สามารถสื่อสารได้อย่างเข้าใจ

คะแนน IELTS และการทำงานต่างประเทศ

คะแนน IELTS เป็นการวัดทักษะทางภาษาอังกฤษ เป็นที่ยอมรับในสากลใช้ได้ทั่วโลก (แต่ต้องดูประกาศของสถานที่ที่จะสมัครด้วยว่ารับ IELTS ไหม ทั้งสถาบันศึกษา และบริษัทที่รับเข้าทำงาน) คะแนน IELTS ใช้ได้หลากหลายตั้งแต่เรียนต่อไปจนถึงสมัครเข้าทำงานในต่างประเทศ อีกทั้งยังใช้ประกอบการขอวีซ่าบางประเภทด้วย

อย่างเช่นการสมัครโครงการ WAH ที่ออสเตรเลีย สำหรับไปเที่ยวและทำงานได้ 1 ปี ต้องมีคะแนน IELTS 4.5 จึงจะมีสิทธิสมัครโครงการนี้ หรือการทำงานที่แคนาดาคะแนน IELTS ก็มีผลในการขอวีซ่าทำงาน หรือในนิวซีแลนด์