วิธีใช้ 了 ไวยากรณ์จีนที่คนไทยมักใช้ผิด ในการสอบ HSK5
ในภาษาจีนนั้น การใช้ 了 ถือเป็นหลักไวยากรณ์พื้นฐานที่คนเรียนจีนต้องรู้จักตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เรียนภาษาจีน ซึ่งดูไปแล้ว 了 ควรเป็นไวยากรณ์ที่ไม่ว่าใครก็ใช้เป็น แต่ในความเป็นจริงนั้นกลับตรงกันข้าม ในการเรียนภาษาจีนนั้น 了 กลับเป็นหนึ่งในไวยากรณ์ที่คนไทยใช้ผิดบ่อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุมาจากการวาง 了 ผิดตำแหน่งนั้นเอง ดังนั้นบทความในวันนี้จึงได้รวบรวมวิธีการใช้ 了 แบบต่างๆ และข้อควรระวังที่ควรรู้ เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถใช้ไวยากรณ์นี้ได้อย่างมั่นใจ สื่อความหมายที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง และไม่พลาดเสียคะแนนไปในการสอบ HSK5 อีกด้วย
สารบัญ
- กรณีที่ 1 : เรื่องราวหรือเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง
- กรณีที่ 2 : เรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้เสร็จสิ้นหรือจบลงแล้ว
- กรณีที่ 3 : เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วและยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
- ข้อควรระวังในการใช้ไวยากรณ์ 了
เรื่องราวหรือเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง
ในกรณีที่เรื่องราวหรือเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เราจะใช้ 了 เข้ามาเพื่อช่วยบ่งบอกว่าสิ่งนั้นๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดย 了 มักจะวางไว้อยู่ที่ท้ายประโยคนั้นๆ
โครงสร้าง :ประธาน + ภาคแสดง + 了 |
ตัวอย่าง :
- 下雨了!
Xià yǔ le!
ฝนตกแล้ว!
- 你变瘦了。
Nǐ biàn shòu le.
เธอผอมลงนะ
- 他不爱我了。
Tā bú ài wǒ le.
เขาไม่รักฉันแล้ว
เรื่องราวหรือเหตุการณ์ได้เสร็จสิ้นหรือจบลงแล้ว
ในกรณีที่เรื่องราวหรือเหตุการณ์นั้นได้จบลงและเป็นอดีตไปแล้วนั้น การใช้ไวยากรณ์ 了 จะแตกต่างไปจากกรณีแรก ทำให้มีผู้เรียนจีนหลายๆ คนใช้ผิดไปได้อย่างง่ายๆ ซึ่งเราสามารถแบ่งการใช้ในกรณีนี้ออกเป็น 3 รูปแบบด้วยกันดังนี้
-
รูปประโยคพื้นฐาน
ในกรณีที่เหตุการณ์นั้นๆได้เสร็จสิ้นและเป็นอดีตไปแล้วนั้น จะมีโครงสร้างพื้นฐานคือ 了 จะตามหลังคำกริยา โดยอาจมีบทเสริมกริยาหรือไม่มีก็ได้อยู่ตรงกลาง
โครงสร้าง :กริยา + (บทเสริมกริยา) + 了 |
ตัวอย่าง :
- 我吃了饭。
Wǒ chī le fàn.
ฉันกินข้าวแล้ว
- 爸爸救了小狗的命。
Bàba jiù le xiǎo gǒu de mìng.
คุณพ่อช่วยชีวิตหมาน้อย
- 她慢悠悠地走进了自己的房间。
Tā mànyōuyōu de zǒu jìn le zìjǐ de fángjiān.
เธอค่อยๆ เดินเข้าห้องของตัวเองไป
จุดน่าสังเกต ประโยค 我吃了饭。และ 我吃饭了。จะมีความแตกต่างกันดังนี้ :
我吃了饭。เป็นการบ่งบอกว่าเหตุการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยจะเน้นถึงสิ่งที่กินเข้าไป ว่ากินข้าวไปแล้ว
我吃饭了。เป็นการบ่งบอกว่าแสดงว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปและสิ้นสุดลงแล้ว โดยจะเน้นว่ากินแล้วนะนั่นเอง
-
รูปประโยคแบบบ่งบอกจำนวนครั้งหรือจำนวนของกรรมในประโยค
ในกรณีที่ต้องการบ่งบอกจำนวน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนครั้งที่ทำกริยานั้นๆ หรือจำนวนของกรรมในประโยค เราสามารถเพิ่มจำนวนเข้าไปด้านหลัง 了 ได้เลย โดยจะต้องมีลักษณะตามหลังตัวเลขด้วยทุกครั้ง
โครงสร้าง :กริยา + 了 + จำนวน + ลักษณะนาม + (กรรม) |
ตัวอย่าง :
- 我买了三本书。。
Wǒ mǎi le sān běn shū.
ฉันซื้อหนังสือมาทั้งหมด 3 เล่ม
- 这部电影我看了十遍。
Zhè bù diànyǐng wǒ kàn le shí biàn.
เขาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้ว 10 ครั้ง
- 爷爷给我发了几千块钱的红包。
Yéye gěi wǒ fā le jǐ qiān kuài qián de hóngbāo.
คุณปู่ให้อั่งเปาหลายพันหยวนกับฉัน
-
รูปประโยคแบบบ่งบอกระยะเวลา
นอกจากบ่งบอกจำนวนแล้ว เรายังสามารถบ่งบอกระยะเวลาของการกระทำนั้นๆ ในประโยคได้ด้วยเช่นกัน โดยจะต้องวางคำบอกเวลาไว้ด้านหลังของ 了
โครงสร้าง :กริยา + 了 + ช่วงเวลา |
ตัวอย่าง :
- 我看了两个小时书。
Wǒ kàn le liǎng gè xiǎoshí shū.
ฉันอ่านหนังสือไป 2 ชั่วโมง
- 儿子今天睡觉睡了一整天。
Érzi jīntiān shuìjiào shuì le yī zhěng tiān.
วันนี้ลูกชายนอนหลับทั้งวันเลย
- 昨晚他花了四十分钟做作业。
Zuó wǎn tā huā le sì shí fēnzhōng zuò zuò yè.
เมื่อคืนเขาใช้เวลา 40 นาทีในการทำการบ้าน
เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วและยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
ในกรณีที่เรื่องราวต่างๆ นั้นได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต และยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน การใช้ไวยากรณ์ 了 จะต่างไปจากสองกรณีก่อนหน้านี้ตรงที่จะต้องมี 了 2 ตัวในประโยคดังนี้
โครงสร้าง :กริยา + 了 + จำนวน/ช่วงเวลา +กรรม + 了 |
ตัวอย่าง :
- 我学了两年汉语了。
Wǒ xué le liǎng nián hànyǔ le.
ฉันเรียนภาษาจีนมา 2 ปีแล้ว (และยังคงเรียนอยู่ในปัจจุบัน)
- 他已经吃了三碗米饭了。
Tā yǐjīng chī le sān wǎn mǐfàn le.
เขากินข้าวไป 3 ถ้วยแล้ว (และยังคงกินถ้วยที่ 4 ต่อไปอยู่)
- 论文我已经改了很多遍了,老师依旧不满意。
Lùnwén wǒ yǐjīng gǎi le hěnduō biàn le, lǎoshī yījiù bù mǎnyì.
ฉันแก้วิทยานิพนธ์ไปหลายรอบแล้ว แต่อาจารย์ยังคงไม่พอใจอยู่เหมือนเดิม
ข้อควรระวังในการใช้ไวยากรณ์ 了
นอกจากตำแหน่งของไวยากรณ์ 了 ในประโยคแล้ว ยังมีข้อควรระวังอีกหลายอย่างที่ควรรู้ไว้ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ไม่ใช้ผิดในภายหลังดังนี้
- ประโยคปฏิเสธที่มี 没 หรือ 没有 ไม่สามารถเติม 了 ในประโยคได้
เนื่องจาก 没 หรือ 没有 นั้นมักใช้ในประโยคปฏิเสธที่เป็นอดีตไปแล้ว ซึ่งมีความหมายว่าเรื่องหรือเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น จึงทำให้ไม่สามารถใช้ 了 ที่มักใช้กับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วนั่นเอง
ตัวอย่าง :
他没把门关上了。แบบนี้จะถือว่าผิด
จะต้องแก้เป็น :
他把门关上了。หรือ
他没把门关上。แบบนี้ถึงจะถือว่าถูกต้อง
- ประโยคที่มีคำบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเป็นประจำ เช่น 每、常常、总是 จะไม่สามารถเติม 了 ในประโยคได้
เนื่องจากประโยคที่มีคำอย่าง 每、常常、总是 นั้นเป็นประโยคที่บ่งบอกว่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์นั้น มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีก ทำให้ไม่สามารถใช้ 了 ในประโยคได้
ตัวอย่าง :
他每天都要跑了一个小时步。แบบนี้จะถือว่าผิด
จะต้องแก้เป็น :
他跑了一个小时步。หรือ
他每天都要跑一个小时步。แบบนี้ถึงจะถือว่าถูกต้อง
- เมื่อมีกริยาช่วย เช่น 会、可以、应该 วางอยู่หน้าคำกริยาในประโยค จะต้องวาง 了 ไว้ท้ายประโยคเท่านั้น
ประโยคที่มีกริยาช่วยอย่าง 会、可以、应该 วางไว้หน้าคำกริยานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประโยคที่บ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นๆ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องวาง 了 ไว้ท้ายประโยค
ตัวอย่าง :
- 我会开车了。
Wǒ huì kāichē le.
ฉันขับรถเป็นแล้ว
- 你应该认真学习了。
Nǐ yīnggāi rènzhēn xuéxí le.
เธอควรตั้งใจเรียนได้แล้ว
หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เพื่อนๆ คงมีความเข้าใจในการใช้ไวยากรณ์ 了 มากขึ้นไม่น้อย ได้รู้ถึงจุดที่ตนมักใช้พลาดไป และแนวทางในการแก้ไขให้ถูกต้อง รับรองว่าหลังจากนี้เพื่อนๆ จะต้องใช้ 了 ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะใช้พูดกับคนจีน เขียนเรียงความภาษาจีน หรือไปสอบ HSK5 ก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ และสบายแน่นอนค่ะ
และถ้าเพื่อนๆ อยากรู้จักไวยากรณ์ HSK5 ที่สำคัญอื่นๆ รวมทั้งวิธีการใช้และข้อควรระวังแล้ว สามารถเรียนในคอร์สคิว HSK5 กับครูพี่นิวได้เลย เนื่องจากภายในคอร์สนี้ประกอบไปด้วยหลักภาษาจีนที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ อีกทั้งยังมีการติว HSK5 ที่ช่วยให้เพื่อนๆ ได้คุ้นชินกับภาษาจีนระดับสูงและการสอบ HSK5 มากยิ่งขึ้นอีกด้วย รับรองว่าคุ้มค่า ช่วยให้สอบ HSK5 ผ่านและได้คะแนนมากกว่า 200 แน่นอนค่ะ