ถอดสูตร Conver:ประโยคบอกทาง-ถามทางภาษาอังกฤษ เที่ยวที่ไหนก็รอด!

ถอดสูตร Conver:ประโยคบอกทาง-ถามทางภาษาอังกฤษ เที่ยวที่ไหนก็รอด!

แจกโครงสร้างประโยคบอกทาง-ถามทางภาษาอังกฤษ จำง่ายพร้อมนำไปใช้ได้เลย ไปเที่ยวไหนที่ไหนก็เอาตัวรอดได้ คลิกอ่านได้เลย

 

ถอดสูตร Conver:
ประโยคบอกทาง-ถามทางภาษาอังกฤษ

เที่ยวที่ไหนก็รอด!

 

            ในชีวิตประจำวันเราไม่ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศหรือเดินทางในประเทศตัวเองล้วนต้องมีบ้างที่จะประสบปัญหาเรื่องเส้นทาง เพราะบางทีเราก็อยู่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยก็จะทำให้เราต้องร้องขอความช่วยเหลือจากคนพื้นที่ ครูดิวจะมาสอนถามทางและบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยการถอดสูตรโครงสร้างประโยคจำไปใช้ง่าย ๆ ดังนี้เลยค่ะ

 

ประโยคถามทาง

            เดี๋ยวมาเริ่มที่ประโยคถามทางภาษาอังกฤษก่อนนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง โครงสร้างเป็นอย่างไร

Do you know where + ชื่อสถานที่ is?
ดู     ยู     โนว     แว                                อิส

 

            ประโยคนี้แปลว่า “คุณรู้ไหมว่า…อยู่ที่ไหนครับ/คะ” เป็นประโยคถามทางภาษาอังกฤษที่เอาไว้ใช้ถามคนในพื้นที่สั้นๆเลยค่ะว่า รู้ไหมว่าสถานที่ที่เราจะไปตั้งอยู่ตรงไหน

เช่น
/ดู-ยู-โนว-แว-เดอะ-เนียเริสทฺ-บัส-สตอพ-พีส/
Do you know where the nearest bus stop is? - คุณรู้ไหมว่าป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหนครับ
/ดู-ยู-โนว-แว-ไซแยม-แพเรอะเกิน-นิส/
Do you know where Siam Paragon is? - คุณรู้ไหมว่าสยามพารากอนอยู่ที่ไหนคะ
/ดู-ยู-โนว-แว-มาร์คซฺ-เฮาซฺ-ซิส/
Do you know where Mark’s house is? - คุณรู้ไหมว่าบ้านของมาร์คอยู่ที่ไหนคะ

ตัวอย่างบทสนทนา
    /ดู-ยู-โนว-แว-เดอะ-เทรน-สเตเชิน-นิส/
A: Do you know where the train station is? - คุณรู้ไหมว่าสถานีรถไฟอยู่ที่ไหน
    /ยูล-แฮฟ-ทู-โก-เสตรทฺ-เฟริม-เฮีย-เออะราวดฺ-ไฟฟฺว-ฮันเดริด-มีเทอะซฺ-แอนดฺ-ยูล-ซี/
B: You’ll have to go straight from here around 500 meters and you’ll see. - คุณต้องเดินตรงไปจากตรงนี้ประมาณ 500 เมตร แล้วคุณจะเจอเลย

 

Could you please tell me how to get to + ชื่อสถานที่?
คูด    ยู     พลีซ    เทล    มี    ฮาว    ทู    เกท    ทู                    ?

 

            ประโยคนี้แปลว่า “กรุณาบอกฉัน/ผมหน่อยได้ไหมว่าจะไป…ได้อย่างไร” เป็นประโยคถามทางภาษาอังกฤษแบบสุภาพที่ใช้กันทั่วไปเลยค่ะ

เช่น
/คูด-ยู-พลีซ-เทล-มี-ฮาว-ทู-เกท-ทู-ทากะ-ออนซึน/
Could you please tell me how to get to Taka Onsen? - กรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าจะไปบ่อออนเซนทากะได้อย่างไร
/คูด-ยู-พลีซ-เทล-มี-ฮาว-ทู-เกท-ทู-ไซเอิน-แนชึเนิล-พาร์คฺ/
Could you please tell me how to get to Zion National Park? - กรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าจะไปอุทยานแห่งชาติไซออนได้อย่างไร

ตัวอย่างบทสนทนา
    /คูด-ยู-พลีซ-เทล-มี-ฮาว-ทู-เกท-ทู-เดอะ-ฮิลเทิน-โฮเทล/
A: Could you please tell me how to get to the Hilton hotel? - กรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าจะไปโรงแรมฮิลตันได้อย่างไร
    /เอิฟ-คอร์ซ-ไอ-คูด/
B: Of course, I could. - แน่นอน ฉันบอกได้

 

How can I get to + ชื่อสถานที่?
ฮาว แคน ไน เกท ทู                       ?

 

            ประโยคนี้แปลว่า “ฉัน/ผมจะไป…ได้อย่างไรครับ/คะ” เป็นประโยคถามทางที่สั้นและง่าย ในภาษาอังกฤษประโยคนี้ใช้พูดกันในชีวิตประจำวันแต่อาจจะสุภาพน้อยหน่อยเพราะเป็นภาษาพูดทั่วไป แต่เราอาจจะใช้ Excuse me นำหน้าก่อนคำถามนี้ก็ได้ค่ะ

เช่น
/ฮาว-แคน-ไน-เกท-ทู-เดอะ-เพอะลีซ-สเตเชิน/
How can I get to the police station? - ฉันจะไปสถานีตำรวจได้อย่างไร
/ฮาว-แคน-ไน-เกท-ทู-ดิ-เอมไพเออะรฺ-สเตท-บิลดิง/
How can I get to the Empire State Building? - ฉันจะไปตึกเอมไพร์สเตทได้อย่างไร

ตัวอย่างบทสนทนา
    /อิคสกิวซฺ-มี-ฮาว-แคน-ไน-เกท-ทู-เดอะ-เธอทีน-รูท-ชอพ/
A: Excuse me, how can I get to the 13 Route Shop? - ฉันจะไปร้านเทอทีนรูทได้อย่างไร
    /อิทซฺ-นอท-ฟาร์-จัสทฺ-เทิร์น-เลฟฺวทฺ-โอเวอร์-เฮีย-เดน-โก-เออะเฮด-แอนดฺ-ยูล-ซี/
B: It’s not far. Just turn left over here, then go ahead and you’ll see. - ไม่ไกลเลยค่ะ แค่เลี้ยวซ้ายตรงนี้ไปแล้วเดินตรงไป คุณจะเจอเลย

 

Could you give me directions to + ชื่อสถานที่?
คูด     ยู     กิฟฺว    มี   เดอะเรคเชินซฺ   ทู                   ?

 

            ประโยคนี้แปลว่า “คุณพอจะบอกทางไป….หน่อยได้ไหมครับ/คะ” เป็นประโยคขอเส้นทางภาษาอังกฤษ สามารถใช้ถามทางได้เหมือนกันค่ะ คำว่า Direction แปลว่า เส้นทาง

เช่น
/คูด-ยู-กิฟฺว-มี-เดอะเรคเชินซฺ-ทู-เดอะ-พาร์ค/
Could you give me directions to the park? - คุณพอจะบอกทางไปสวนสาธารณะได้ไหมคะ
/คูด-ยู-กิฟฺว-มี-เดอะเรคเชินซฺ-ทู-เดอะ-เจ เอฟฺว เค-แอร์พอร์ท/
Could you give me directions to the JFK airport? - คุณพอจะบอกทางไปสนามบินเจเอฟเคได้ไหมครับ

ตัวอย่างบทสนทนา
    /คูด-ยู-กิฟฺว-มี-เดอะเรคเชินซฺ-ทู-เดอะ-เมอะรีเนอะ-บีช/
A: Could you give me directions to the Marina beach? - คุณพอจะบอกทางไปหาดมารีน่าได้ไหมคะ
    /โก-เออะเฮด-ฟอร์-เออะเบาทฺ-ไฟฟฺว-มินิทซฺ, เดน-เทิร์น-ไรทฺ-แอนดฺ-ยูล-ซี/
B: Go ahead for about 5 minutes, then turn right and you’ll see. - เดินตรงไปข้างหน้าประมาณ 5 นาทีครับ จากนั้นให้เลี้ยวขวา คุณจะเจอมันเลยครับ

 

หนังสือถอดสูตร Conver พูดENGเก่งไว ประยุกต์ใช้ได้ทุกสถานการณ์ 

 

ประโยคบอกทาง

            สำหรับประโยคบอกทางภาษาอังกฤษจะมีโครงสร้างการบอกที่ง่าย ๆเหมือนกันค่ะ แต่ขั้นแรกครูดิวจะมาสอนศัพท์ก่อนว่าการบอกว่าตรงไป เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เดินตรงไป ข้ามถนน พูดภาษาอังกฤษยังไง ต้องรู้ตรงนี้ก่อนเราถึงจะบอกทางได้ค่ะ มาดูกันว่าพูดยังไงน้า

/เทิร์น-ไรท์/      /เทิร์น-เลฟฺวทฺ/
Turn right / Turn left = เลี้ยวขวา / เลี้ยวซ้าย
/โก-สเตรท/         /โก-แบกคฺ/
Go straight / Go back = ตรงไป / กลับไปทางเดิม
/ครอสซฺ-เดอะ-โรด/
Cross the road = ข้ามถนน
/โก-เทอะวอร์ด/
Go toward + สถานที่ = มุ่งหน้าไปที่…

            สำหรับวิธีการใช้คำเหล่านี้ก็ง่ายเหมือนกันค่ะ เพราะคำพวกนี้เป็นคำบอกทางภาษาอังกฤษที่เป็นกริยาอยู่แล้วสามารถหยิบไปเติมหลังประธานของประโยคได้เลยค่ะเธอ เช่น

/ไอ-มัสทฺ-โก-เสตรทฺ/
I must go straight. - ฉันต้องเดินตรงไป
/ยู-แฮฟ-ทู-เทิร์น-เลฟฺว/
You have to turn left - คุณต้องเลี้ยวซ้าย
/ยู-แฮฟ-ทู-โก-เทอะวอร์ด-เดอะ-บลู-บิลดิง-แอนดฺ-ครอสซฺ-เดอะ-โรด/
You have to go toward the blue building and cross the road. - คุณต้องมุ่งหน้าไปที่ตึกสีฟ้าและข้ามถนนไป

            ที่นี้พวกเธอรู้วิธีบอกคนให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาแล้ว ทีนี้ก็มาเริ่มเรียนเรียนโครงสร้างประโยคบอกทางไปสถานที่ต่าง ๆได้เลยน้า

 

You have to + เส้นทาง and you’ll see.
ยู แฮฟ ทู                             แอนดฺ ยูล ซี.

 

            ประโยคนี้แปลว่า “คุณต้อง…แล้วคุณจะเจอเลยครับ/ค่ะ” เป็นประโยคบอกทางที่ พวกเธอเห็นว่าครูใช้บ่อยมาก ๆกับตัวอย่างบทสนทนาถามทาง-บองทางภาษาอังกฤษก่อนหน้านี้นะคะ หลักการใช้ก็แค่ใช้ You have to ขึ้นต้นประโยคจากนั้นก็นำคำบอกเส้นทางมาต่อเติมได้เลยค่ะ แล้วปิดท้ายด้วย You’ll see ที่ย่อมาจาก You will see แปลว่า คุณจะเจอหรือคุณจะเห็น นั่นเองค่ะ

เช่น
/ยู-แฮฟ-ทู-เทิร์น-ไรทฺ-แอนดฺ-ยูล-ซี/
You have to turn right and you’ll see. - คุณต้องเลี้ยวขวาแล้วคุณจะเจอเลย

 

            ถ้าการบอกทางมันซับซ้อนหรือต้องปฏิบัติมากกว่า 1 อย่างก็ใช้พูดทีละขั้นตอนแล้วปิดท้ายขั้นตอนสุดท้ายด้วย then แล้วค่อยตามด้วย and you’ll see ก็ได้ค่ะ เช่น

/ยู-แฮฟ-ทู-เทิร์น-เลฟฺว, โก-เทอะวอร์ด-เดอะ-ฮิลเทิน-โฮเทล, ครอสซฺ-เดอะ-โรด, เดน-เทิร์น-ไรทฺ-แอนดฺ-ยูล-ซี/
You have to turn left, go toward the Hilton hotel, cross the road, then turn right and you’ll see. - คุณต้องเลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าไปที่โรงแรมฮิลตัน ข้ามถนน จากนั้นก็เลี้ยวขวาแล้วคุณจะเจอเลยค่ะ

 

ตัวอย่างบทสนทนา
    /ดู-ยู-โนว-แว-เดอะ-จัก-ลาบ-เป็ด-เรสตรอนทฺ-ทิส/
A: Do you know where the Jak Lab Ped restaurant is? - คุณรู้ไหมว่าร้านอาหารลาบเป็ดคุณจักรอยู่ที่ไหนครับ
    /เยส. ยู-แฮฟ-ทู-โก-เทอะวอร์ด-แดท-เซวึน-อีเลฟฺวึน, เดน-ครอสซฺ-เดอะ-โรด-แอนดฺ-ยูล-ซี/
B: Yes. You have to go toward that 7-Eleven, then cross the road and you‘ll see. - รู้ค่ะ คุณต้องมุ่งหน้าไปที่เซเว่นอีเลเว่นตรงนั้น จากนั้นก็ข้ามถนนแล้วคุณจะเจอเลยค่ะ
    /แธงคฺ-คิว/
A: Thank you. - ขอบคุณครับ

 

It is next to + ชื่อสถานที่.
อิท ทิส เนกซฺ ทู                         .

 

            ประโยคนี้แปลว่า “มันอยู่ถัดจาก…” เป็นประโยคบอกทางภาษาอังกฤษโดยใช้จุดเด่นของสถานที่เป็นที่ตั้งเช่น ห้างที่ผู้ถามอยากไปมันอยู่ถัดจากสถานีตำรวจซึ่งเดินเลยไปอีกนิดก็ถือตึกถัดไปก็เป็นหาง ก็ให้ใช้ประโยคนี้พูดได้เลยค่ะ

เช่น
/อิท-ทิส-เนกซฺ-ทู-เดอะ-เพอะลีซ-สเตเชิน/
It is next to the police station. - มันอยู่ถัดจากสถานีตำรวจ
/อิท-ทิส-เนกซฺ-ทู-เดอะ-ซูเพอะมาร์คิท/
It is next to the supermarket. - มันอยู่ถัดจากซุปเปอร์มาร์เก็ต

ตัวอย่างบทสนทนา
    /ฮาว-แคน-ไน-เกท-ทู-เจคซฺ-บาร์/
A: How can I get to Jake's bar? - ผมจะไปเจคส์บาร์ได้ยังไงครับ
    /ยู-แฮฟ-ทู-เทิร์น-ไรทฺ-โอเวอร์-แด-อิท-ทิส-เนกซฺ-ทู-เซวึน-อีเลฟฺวึน/
B: You have to turn right over there. It is next to 7-Eleven. - คุณต้องเลี้ยวขวาซอยแรกตรงนั้นแล้วมันอยู่ถัดจากเซเว่นอีเลเว่นเลย

 

It is between + ชื่อสถานที่ 1 and ชื่อสถานที่ 2.
อิท ทิส บิทวีน                                   แอนดฺ                   .

 

            ประโยคนี้แปลว่า “มันตั้งอยู่ระหว่าง…และ…” เป็นประโยคบอกทางเหมือนกับประโยคก่อนหน้า เพียงแต่คราวนี้บรรยายให้จุดเด่นเพิ่มขึ้นและหาเจอง่ายขึ้น โดยใช้ 2 สถานที่เป็นตัวตั้งค่ะ

เช่น
/อิท-ทิส-บิทวีน-เออะ-แฮรฺ-แซลอน-แอนดฺ-เออะ-เทอะทู-ชอพ/
It is between a hair salon and a tattoo shop. - มันตั้งอยู่ระหว่างร้านทำผมและร้านสัก

ตัวอย่างบทสนทนา
    /คูด-ยู-พลีซ-เทล-มี-ฮาว-ทู-เกท-ทู-เดอะ-ทอริสทฺ-เซอร์วิซ-เซนเทอะ/
A: Could you please tell me how to get to the tourist service center? - คุณพอจะบอกทางไปสำนักงานบริการนักเที่ยวหน่อยได้ไหมคะ
    /เชอรฺ, แฮฟ-ยู-บิน-ทู-เกลนนฺ-พาร์ค/
B: Sure, have you been to Glenn Park? - คุณเคยไปสวนสาธารณเกลนน์ไหมครับ
    /เยส, ไอ-แฮฟ/
A: Yes, I have. เคยไปค่ะ
    /อิท-ทิส-บิทวีน-เกลนนฺ-พาร์ค-แอนดฺ-เดอะ-ซิที-ฮอล/
B: It is between Glenn Park and the city hall. - มันตั้งอยู่ระหว่างสวนสาธารณเกลนน์และศาลากลางจังหวัดเลยครับ

 

            และส่วนนี้ก็เป็นประโยคบอกทาง-ถามทางในภาษาอังกฤษแบบคร่าว ๆนะคะ สามารถนำไปใช้ได้พูดได้เลยน้า บางประโยคก็ถูกยกมาจากหนังสือ ถอดสูตร Conver ด้วย โดยในหนังสือจะสอนลึกถึงการใช้โครงสร้างที่ละเอียดมากขึ้น วิธีพูดบอกทางยังไงให้ลื่นไหล นอกจากเรื่องการบอกทาง-ถามทางแล้ว ยังมีเนื้อหาสอนบทสนทนาในสถานการณ์อื่น ๆอีกด้วย หากสนใจซื้อหนังสือ ถอดสูตร Conver คลิกที่รูปด้านล่างได้เลยค่ะ

 

✿ หนังสือถอดสูตร Conver พูดอังกฤษเก่งไว ประยุกต์ใช้ได้ทุกสถานการณ์ 

  • เรียนภาษาอังกฤษด้วยการใช้สูตรถอดโครงสร้างประโยคที่ทั้งสั้นและจำง่าย 1 โครงสร้างพูดได้ 10 กว่าประโยค
  • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน แม้ไม่มีพื้นฐานเลยก็เรียนได้!!
  • เพลิดเพลินไปกับบทสนทนาในธีมภาพยนตร์เพิ่มความสนุกและอรรถรสระหว่างเรียนกับครูดิวและอาจารย์อดัม
  • เข้าใจแกรมมาร์ภาษาอังกฤษง่าย ๆด้วยเทคนิคจากครูดิว ฝึกพูดให้เหมือนฝรั่งด้วยการสอนจากอาจารย์อดัม
  • มีแบบฝึกหัดบทสนทนาโต้ตอบให้ทำพร้อมเฉลยและอธิบายครบจบทั้งเล่ม
  • พิเศษ!! สำหรับสั่งซื้อแบบหนังสือพร้อมกับคอร์สเรียนจะได้รับเนื้อหาที่สอนเพิ่มเติมจากหนังสือเป็นวิดีโอสอนโดยครูดิวและอาจารย์อดัมที่จะทำให้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น