ให้ A แทนเซตของค่า a2+b2+c2+d2 โดยที่ a,b,c และ d เป็นจำนวนเต็มบวกที่สอดคล้องกับสมการต่อไปนี้
(ก) a=b+d
(ข) (a+b+c+d)b=(a−c)d
(ค) 2+cd=a(c−1)
ให้ M และ m แทนค่ามากที่สุดและน้อยที่สุดใน A ตามลำดับ แล้วค่าของ M−m เท่ากับเท่าใด
,
จาก (ก) a=b+d จะได้
d=a−b
แทนค่า b+d ด้วย a ในด้านซ้ายของสมการ (ข) และแทนค่า d ด้วย a−b ในด้านขวาของสมการ (ข) จะได้
(a+b+c+d)b=(a−c)d[a+c+(b+d)]b=(a−c)(d)[a+c+(a)]b=(a−c)(a−b)(2a+c)b=(a−c)(a−b)2ab+bc=a2−ab−ac+bc2ab+bc=a2−ab−ac+bc2ab=a2−ab−ac3ab+ac=a2
เนื่องจาก a>0 เพราะว่าเป็นจำนวนเต็มบวก เราจึงสามารถหารตลอดสมการข้างบนด้วย a
3ab+ac=a2a(3b+c)=a2a(3b+c)a=a2aa(3b+c)a=a2a3b+c=a⋯(1)
,
แทนค่า a ด้วย b+d จาก (ก) ลงไปในด้านขวาของสมการ (ค) แล้วกระจาย จะได้
2+cd=a(c−1)2+cd=(b+d)(c−1)2+cd=bc−b+cd−d2+cd=bc−b+cd−d2=bc−b−d2+b+d=bc
แทนค่า b+d ด้วย a จาก (ก) ลงไปทางซ้ายของสมการด้านบนอีกครั้ง
2+b+d=bc2+(b+d)=bc2+(a)=bc2+a=bc⋯(2)
,
แทนค่า a ด้วย 3b+c จากสมการ (1) ลงด้านซ้ายของสมการ (2), ย้ายตัวแปรทั้งหมดไปข้างเดียวกันของสมการ แล้วเขียนในรูปผลคูณ (b+?)(c+?)
2+a=bc2+(3b+c)=bc2+3b+c=bcbc−3b−c=2(bc−3b)−c=2b(c−3)−(c)=2b(c−3)−(c−3)=2+3(b−1)(c−3)=5⋯(3)
จากสมการ (3) และเนื่องจาก b,c เป็นจำนวนเต็มบวกสามารถสรุปได้เป็น 2 กรณี คือ
- (b−1)=1 และ (c−3)=5
- (b−1)=5 และ (c−3)=1
ส่วนกรณีที่ (b−1)=−1 และ (c−3)=−5 เป็นไปไม่ได้เพราะจะได้ c มีค่าติดลบ (ไม่เป็นจำนวนเต็มบวก) และอีกกรณีก็เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลในทำนองเดียวกัน
,
จะได้ b=2 และ c=8
แทนค่า b=2 กับ c=8 ลงในสมการ (1) จะได้
a=3b+c=3(2)+(8)=14
แทนค่า a=14 กับ b=2 ลงใน (ก) จะได้
a=b+db+d=ad=a−b=(14)−(2)=12
ดังนั้นกรณีนี้ได้ค่า a=14, b=2, c=8 และ d=12
คำนวณค่า
a2+b2+c2+d2=(14)2+(2)2+(8)2+(12)2=196+4+64+144=408
,
จะได้ b=6 และ c=4
แทนค่า b=6 กับ c=4 ลงในสมการ (1) จะได้
a=3b+c=3(6)+(4)=22
แทนค่า a=22 กับ b=6 ลงใน (ก) จะได้
d=a−b=(22)−(6)=16
ดังนั้นกรณีนี้ได้ค่า a=22, b=6, c=4 และ d=16
คำนวณค่า
a2+b2+c2+d2=(22)2+(6)2+(4)2+(16)2=484+36+16+256=792
,
เนื่องจากค่าของ a2+b2+c2+d2 แบ่งเป็นเพียง 2 กรณี คือ 408 กับ 792 ดังนั้น M=792 และ m=408
M−m=792−408=384