สรุปเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ ฉบับอ่านเข้าใจง่ายใน 3 นาที!
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์
(Fossil Fuel)
- เป็นเชื้อเพลิงที่เกิดจาก ซากพืช ซากสัตว์ ที่ตายทับถมกันนานนับล้านปี
- เมื่อได้รับ “ความร้อน” และ “ความดัน” ทำให้จุลินทรีย์ย่อยสลายในสภาวะที่ไม่มีออกซิเจน
- เป็นแหล่งพลังงานสิ้นเปลือง หรือ พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป (non - renewable energy)
- เมื่อนำมาเผาไหม้ จะให้พลังงานความร้อนได้ดี
เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ที่นำมาใช้ประโยชน์
1) ถ่านหิน (coal)
2) หินน้ำมัน (oil shale)
3) ปิโตรเลียม (petroleum)
ผลกระทบที่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์
1. การเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ ก่อให้เกิดมลพิศทางอากาศที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก เนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการเผาไหม้สารไฮโดรคาร์บอนต่าง ๆ ในน้ำมันก่อให้เกิดแก๊สมีเทน (CH4) ซึ่งแก๊สทั้งสองมีสมบัติเป็นแก๊สเรือนกระจก ก่อให้เกิด "ปรากฏการณ์เรือนกระจก (green house effect)" ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิด ภาวะโลกร้อน (global warming)
2. ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากปิโตรเลียม เช่น กล่องโฟม พลาสติกต่าง ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายยาก หากเผาไหม้จะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรุนแรงและเกิดแก๊สพิษต่าง ๆ ซึ่งยากต่อการกำจัด
3. การเผาไหม้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าก่อให้เกิดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำในบรรยากาศทำให้เกิดกรดซัลฟิวริก (H2SO4) และกรดไนตริก (HNO3) เมื่อตกกลับมาสู่ผิวโลกในรูปแบบฝน ทำให้เกิด "ปรากฏการณ์ฝนกรด (acidd rain)" ที่ทำลายระบบนิเวศ และสร้างสารพิษในธรรมชาติ