ประวัติวันไหว้พระจันทร์ฉบับเต็ม พร้อมวิธีไหว้พระจันทร์ปี 2020

中秋节快乐 สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์ค่ะ 

เทศกาลสำคัญประจำปีของชาวจีน และคนไทยเชื้อสายจีน

ที่มีสัญลักษณ์สำคัญคือขนมไว้พระจันทร์ ที่หาทานได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น

วันนี้แอดมินเลยนำเกร็ดความรู้สนุกๆเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์มาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลย

สารบัญ

- ต้นกำเนิดและประเพณีไหว้พระจันทร์

- ตำนานฉางเอ๋อสู่ดวงจันทร์

- ตำนานขนมไหว้พระจันทร์

- วิธีไหว้พระจันทร์ฉบับปี 2020

ต้นกำเนิดและประเพณีไหว้พระจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์มีต้นกำเนิดในยุคจีนโบราณ หากแต่เป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยราชวงศ์ฮั่น และเกิดความเสื่อมถอยของค่านิยมไปในช่วงราชวงศ์ถัง ครั้นถึงราชวงศ์ซ่งเทศกาลนี้จึงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นประเพณีประจำช่วงฤดูใบไม้ร่วงของชาวจีน เพื่อขอพรเรื่องการเก็บเกี่ยวและความสุขในชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นเทศกาลที่สื่อถึงการรวมตัวของสมาชิกในครอบครัว อันมีความหมายโดยนัยคือความกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวประหนึ่งดวงจันทร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยต่อมาเทศกาลนี้จึงได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่ายิ่งของชาวจีนในปัจจุบัน 

ตำนานฉางเอ๋อสู่ดวงจันทร์

ตำนานฉางเอ๋อสู่ดวงจันทร์ มีต้นกำเนิดจากการบูชาดวงดาวและพระจันทร์ในสมัยโบราณ ตามตำนานว่ากันว่าเรื่องราวของฉางเอ๋อสู่ดวงจันทร์เป็นนิทานที่บอกเล่ากันปากต่อปากเกี่ยวโลกในสมัยโบราณกาล ที่มีดวงอาทิตย์อยู่ถึงสิบดวง ทำให้โลกมนุษย์เกิดภัยพิบัติไปทั่ว แผ่นดินร้อนระอุ น้ำเหือดแห้ง ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย ต่อมาได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า โฮ่วอี้ เป็นผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำอย่างมาก โดยสามารถยิงธนูขึ้นสู่ฟ้าเพียงดอกเดียว ถูกดวงอาทิตย์ถึงเก้าดวง ทำให้เหลือดวงอาทิตย์อยู่เพียงดวงเดียว เป็นการขจัดความทุกข์ให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้รับการยกย่องให้เป็นกษัตริย์ แต่เมื่อโฮ่วอี้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ลุแก่อำนาจ ลุ่มหลงในสุรานารี ฆ่าฟันผู้คนตามอำเภอใจ ทำให้ราษฎรโกรธแค้นชิงชังเขา และคิดก่อการกบฏ เมื่อโฮ่วอี้รู้ตัว จึงได้เดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน เพื่อขอยาอายุวัฒนะมาดื่มกิน แต่ ฉางเอ๋อ ผู้เป็นภรรยากลัวว่า ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน อาจจะนำพาเอาความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนเป็นแน่แท้ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจแอบขโมยยาอายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง เมื่อกินเข้าไปแล้ว ร่างของฉางเอ๋อก็เบาหวิว และลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ นับแต่นั้นมา บนดวงจันทร์ก็ปรากฏภาพเทพธิดา กลายเป็นตำนานฉางเอ๋อสู่ดวงจันทร์นั่นเอง
 

ตำนานขนมไหว้พระจันทร์

ตามตำนานแล้ว เทศกาลกินขนมไหว้พระจันทร์ เกิดขึ้นในราชวงศ์หยวน(ราชวงศ์ที่ปกครองโดยชนเผ่ามองโกล) ซึ่งราชวงศ์นี้ปกครองแผ่นดินด้วยความโหดร้ายทารุณ ทำให้ชาวเมืองจำนวนมากไม่อาจทนต่อการปกครองของคนในราชวงศ์หยวนได้ จึงพากันลุกฮือรวบรวมกองกำลังขึ้นต่อต้านแบบลับๆ นำโดยจูหยวนจาง(朱元璋) ซึ่งในเวลาต่อมาเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิง
แต่การรวบรวมกำลังแต่วางแผนจู่โจมนั้นทำได้ยากลำบากยิ่ง เนื่องด้วยฝั่งทหารราชวงศ์ต่างพากันตรวจตราการก่อกบฎและการก่อจลาจลอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องยากต่อการส่งข่าว จูหยวนจางจึงได้วางแผนซ่อนข้อความ “ก่อจลาจลในคืนวันเพ็ญเดือนแปด” ไว้ในเค้กไหว้พระจันทร์ แล้วส่งไปให้กองทัพฝ่ายกบฏและชาวบ้านเพื่อแจ้งให้มีการลุกฮือก่อกบฎโดยพร้อมเพรียงกัน นำมาซึ่งชัยชนะที่เด็ดขาดต่อราชวงศ์หยวน
ต่อมาเพื่อเป็นการสรรเสริญถึงวีรกรรมอันกล้าหาญและชัยชนะจากศึก ชาวเมืองจึงได้นำขนมไหว้พระจันทร์มาเป็นขนมประจำเทศกาลการไหว้ดวงจันทร์เพื่อระลึกถึงวีกรรมอันกล้าหาญและชัยชนะเหนือราชวงศ์หยวนนั่นเอง

การไหว้พระจันทร์

ไหว้โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกในช่วงเวลาที่สามารถเห็นพระจันทร์เต็มดวงได้อย่างเด่นชัด
โดยมีของไหว้ดังนี้
ผลไม้ที่มีชื่อและความหมายมงคล
อาหารเจชนิดแห้ง
ขนมหวาน : ขนมไหว้พระจันทร์, ขนมเปี๊ยะ, (ขนมทรงกลม)
โคมไฟ : เพื่อใช้สำหรับจุดไฟ เพราะเปรียบเหมือนชีวิตที่สว่างไสว
เครื่องสำอางและเครื่องประดับ
น้ำชาหรือใบชา 4 ถ้วย

การอธิษฐานขอพรต่อดวงจันทร์สามารถขอพรเรื่องโชคลาภ ความรักและหน้าที่การงานก็ได้โดยเมื่อไหว้เสร็จพิธีให้แบ่งขนมไหว้พระจันทร์กินกันในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
中秋节快乐 สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์นะคะ