สมัครเรียนต่างประเทศ ต้องรู้อะไรบ้าง

สมัครเรียนต่างประเทศ ต้องรู้อะไรบ้าง

คนที่กำลังเตรียมตัวเรียนต่อต่างประเทศ มีเรื่องที่จำเป็นต้องรู้อยู่หลายเรื่องด้วยกัน โดยในครั้งนี้ทางบทความก็ได้เตรียมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศมาฝาก ประกอบไปด้วยเอกสารที่ใช้สมัครเรียน กำหนดการเปิดและปิดรับสมัคร รวมถึงกำหนดการเปิดปิดเทอมของแต่ละประเทศ ไปดูพร้อมๆ กันเลยว่ารายละเอียดมีอะไรบ้าง

สมัครเรียนต่างประเทศ ต้องรู้อะไรบ้าง 

 

เอกสารที่ใช้สมัครเรียนต่อต่างประเทศ

กำหนดการรับสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ

กำหนดการเปิดเทอม ประเทศต่างๆ


 

เอกสารที่ใช้สมัครเรียนต่อต่างประเทศ

 

เรื่องต้องรู้เรื่องแรกในการสมัครเรียนต่างประเทศ ก็คือเอกสารที่ใช้ในการสมัคร หลายคนรู้แล้วว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แต่บางคนก็อาจยังมีข้อมูลที่ตกหล่นอยู่ รวมถึง 

 

 

ใบจบการศึกษา (Graduation Certificate)

 

เอกสารฉบับแรกที่จำเป็น ไม่ใช่แค่สมัครเรียนต่างประเทศเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะสมัครเรียนที่ไหนก็ต้องใช้ใบจบการศึกษาไปแสดง ซึ่งเป็นใบจบชั้นเรียนล่าสุดของผู้สมัครเรียน หากสมัครเรียนปริญญาตรี ต้องใช้ใบจบที่แสดงว่าเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายหรือจบ High school หากสมัครเรียนปริญญาโท ผู้สมัครเรียนก็จะต้องใช้ใบจบที่แสดงว่าสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 

 

เอกสารแสดงผลการเรียน (Transcript)

 

เอกสารฉบับถัดมา ที่จำเป็นต้องมีตอนสมัครเรียนต่างประเทศและในประเทศก็คือเอกสารแสดงผลการเรียนหรือ Transcript ที่แสดงผลถึงเกรดเฉลี่ยรายวิชาและเกรดเฉลี่ยรวม เพราะในการสมัครเรียนต่างประเทศและในประเทศหลายแห่งมีการกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ ทำให้ Transcript เป็นเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการสมัคเรียน และสำหรับสมัครเรียนต่างประเทศต้องเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ

 

 

Resume/Portfolio

 

ในการสมัครเรียนต่อต่างประเทศและในประเทศ Resume จะเป็นการแนะนำตัวเบื้องต้น ส่วน Portfolio จะแสดงถึงผลงานจากการเรียนที่ผ่านมา หากมีผลงานวิจัย จะถูกนำเสนอในส่วนนี้ มีผลต่อการพิจารณาเข้าศึกษาต่อเช่นกัน โดยหากมีผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่จะศึกษาต่อ จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะผ่านการพิจารณาเข้าศึกษาต่อได้มากขึ้น

 

Letter of Recommendation

 

ถือเป็นอีกหนึ่งเอกสารสำคัญสำหรับการสมัครเรียนต่างประเทศก็คือ Letter of Recommendation เป็นจดหมายรับรองจากอาจารย์หรือหัวหน้างาน ซึ่งสถาบันส่วนใหญ่มักขอ Letter of Recommendation 2 ฉบับ หรือบางแห่งอาจขอมากกว่านั้น สิ่งสำคัญในการเตรียมเอกสารนี้คือ “เวลา” เนื่องจากเป็นเอกสารที่ต้องให้บุคคลอื่นเขียนให้ ซึ่งบุคคลนั้นอาจมีข้อจำกัดของเวลา จึงควรเตรียมเวลาแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เวลากับบุคคลนั้น และสามารถเขียนได้ทันกำหนดการรับสมัคร

 

เอกสารนี้จะแสดงว่าผู้สมัครเรียนมีความเหมาะสมกับการเรียนต่อในสาขาวิชานั้นๆ หรือไม่ และยังเป็นเอกสารที่แสดงความน่าเชื่อถือของตัวผู้สมัครเอง มีส่วนในการพิจารณาเข้ารับศึกษาต่อ 

 

Statement of Purpose (SOP)

 

เอกสารถัดมาที่สำคัญต่อการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ ก็คือ Statement of Purpose เป็นเอกสารที่ผู้สมัครต้องเขียนด้วยตนเอง โดยจะเรียบเรียงเป็นบทความเพื่อแนะนำตัว ถึงการเรียนที่ผ่านมารวมถึงผลงานที่ได้จากการเรียน เช่น ผลงานวิจัยต่างๆ การเข้าอบรมรวมถึงการฝึกงาน

 

สำคัญมากคือการระบุจุดประสงค์ในการเรียนต่อในสาขานั้นๆ อย่างสมเหตุสมผล แสดงออกถึงความสามารถในการวิเคราะห์และแสดงถึงแผนอนาคตในการนำความรู้ไปต่อยอดในหน้าที่การงาน มีผลมากเช่นกันต่อการพิจารณาเข้าศึกษาต่อในสาขาและสถาบันนั้นๆ

 

เอกสารแสดงคะแนนภาษาอังกฤษ

 

แน่นอนว่าการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ ผู้สมัครจะต้องมีความสามารถทางภาษาอังกฤษ และสิ่งที่จะแสดงได้ก็คือเอกสารที่แสดงผลคะแนนจากการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งจะต้องเป็นคะแนนที่ทางสถาบันยอมรับ สำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ได้แก่ การสอบ IELTS การสอบ TOEFL การสอบ PTE เป็นต้น 

 

กำหนดการรับสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ

 

สำหรับการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งที่ผู้สมัครต้องรู้ก็คือกำหนดการของแต่ละประเทศ ในความเป็นจริงแล้วแต่ละสถาบันมีกำหนดการรับสมัครแตกต่างกัน แต่ในบทความนี้ จะนำเสนอข้อมูลภาพรวมของแต่ละประเทศที่เปิดรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ดังนี้  


 

 

สมัครเรียนต่อเมริกา

 

กำหนดการสมัครเรียนต่ออเมริกา จะเปิดรับรอบ Early กับรอบ Regular ภาพรวมการรับสมัครรอบ Regular หรือที่เรียกว่ารอบปกติจะปิดรับช่วงเดือนมกราคมในปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน เช่น ปีการศึกษา 2023 ก็มักจะปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม 2023 แต่เป็นเพียงภาพรวมเท่านั้น เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็อาจมีกำหนดการรับสมัครแตกต่างกัน แต่ก็จะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

 

ยกตัวอย่างกำหนดการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยในอเมริกา

 

Massachusetts Institute of Technology

 

  • ปิดรับสมัครรอบ Early ช่วงเดือนพฤศจิกายน (ปีก่อนปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)
  • ปิดรับสมัครรอบ Regular ช่วงเดือนมกราคม (ปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)

 

Stanford University 

 

  • ปิดรับสมัครรอบ Early ช่วงเดือนพฤศจิกายน (ปีก่อนปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)
  • ปิดรับสมัครรอบ Regular ช่วงเดือนมกราคม (ปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)

 

Harvard University

 

  • ปิดรับสมัครรอบ Early ช่วงเดือนพฤศจิกายน (ปีก่อนปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)
  • ปิดรับสมัครรอบ Regular ช่วงเดือนมกราคม (ปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)

 

California Institute of Technology

 

  • ปิดรับสมัครรอบ Early ช่วงเดือนธันวาคม (ปีก่อนปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)
  • ปิดรับสมัครรอบ Regular ช่วงเดือนมกราคม (ปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)

 

University of Chicago 

 

  • ปิดรับสมัครรอบ Early ช่วงเดือนพฤศจิกายน (ปีก่อนปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)
  • ปิดรับสมัครรอบ Regular ช่วงเดือนมกราคม (ปีเดียวกันกับปีการศึกษาที่จะกำลังจะเปิดเรียน)

 

 

สมัครเรียนต่ออังกฤษ/สหราชอาณาจักร

 

กำหนดการสมัครเรียนต่ออังกฤษและประเทศอื่นในสหราชอาณาจักร รับสมัครประมาณช่วงเดือนกันยายนและปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคมเป็นส่วนใหญ่ แต่ข้อมูลส่วนนี้เป็นเพียงภาพรวมเท่านั้น เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยก็อาจมีกำหนดการรับสมัครแตกต่างกัน แต่ก็จะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

 

ยกตัวอย่างกำหนดการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร

 

  • University of Cambridge - ปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคม 
  • University of Oxford - ปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคม
  • Imperial College London - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม
  • UCL - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคม สำหรับเข้าเรียนในเดือนกันยายน และปิดรับสมัครช่วงเดือนกันยายน สำหรับเข้าเรียนในเดือนมกราคม
  • The University of Edinburgh - ปิดรับสมัครช่วงเดือนพฤษภาคม

 

 

สมัครเรียนต่อออสเตรเลีย

 

กำหนดการสมัครเรียนต่อออสเตรเลียจะมีหลายรอบ แต่หลักๆ เลยถ้าจะพูดถึงการปิดรับสมัครเพื่อเข้าเรียนในเทอมแรกของปีการศึกษานั้นๆ ภาพรวมมักจะปิดรับช่วงปลายปีของปีหนึ่งไปจนถึงต้นปีในปีถัดไป แต่บางมหาวิทยาลัยก็ปิดรับช่วงกลางปี ซึ่งสามารถพบได้เช่นกัน

 

ยกตัวอย่างกำหนดการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย 

 

  • The University of Melbourne - ปิดรับสมัครช่วงเดือนพฤศจิกายน
  • University of New South Wales - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมิถุนายน
  • The University of Sydney - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม
  • Australian National University - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม
  • Monash University - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมิถุนายน


 

 

สมัครเรียนต่อนิวซีแลนด์

 

กำหนดการรับสมัครของนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่จะปิดรับช่วงปลายปี เพื่อเข้าเรียนในช่วงต้นปีของปีถัดไป ส่วนใหญ่จะเปิดเทอมช่วงมกราคม - กุมภาพันธ์

 

ยกตัวอย่างกำหนดการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์

 

  • University of Auckland - ปิดรับสมัครช่วงเดือนธันวาคม
  • University of Otago - ปิดรับสมัครช่วงเดือนพฤศจิกายน
  • Massey University - ปิดรับสมัครช่วงเดือนตุลาคม 
  • Victoria University of Wellington - ปิดรับสมัครช่วงเดือนธันวาคม University of Waikato - ปิดรับสมัครช่วงเดือนธันวาคม

 

 

สมัครเรียนต่อแคนาดา

 

สำหรับการสมัครเรียนต่อที่แคนาดานั้นมีกำหนดการที่หลากหลาย บางมหาวิทยาลัยปิดรับปลายปี บางมหาวิทยาลัยปิดรับต้นปี และบางมหาวิทยาลัยปิดรับช่วงกลางปี 

 

ยกตัวอย่างกำหนดการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยในแคนาดา 

 

  • University of Toronto - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคม
  • McGill University - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมกราคม
  • University of British Columbia - ปิดรับสมัครช่วงเดือนพฤษภาคม
  • University of Alberta - ปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคม
  • University of Waterloo - ปิดรับสมัครช่วงเดือนกุมภาพันธ์

 

 

กำหนดการเปิดเทอม ประเทศต่างๆ

 

ถัดมาจากกำหนดการรับสมัครเรียนต่อต่างประเทศ ขอมาต่อกันที่ข้อมูลกำหนดการเปิดภาคเรียน โดยการเปิดภาคเรียนของแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน ส่วนมหาวิทยาลัยในประเทศนั้นๆ จะเปิดเรียนใกล้เคียงกัน ดังนี้

 

เรียนต่อเมริกา


ในการเปิดภาคเรียนที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งในครั้งนี้ทางบทความก็มีตัวอย่างการเปิดภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ ดังนี้

 

  • Massachusetts Institute of Technology เปิดเทอมช่วงเดือนมิถุนายน
  • Stanford University เปิดเทอมช่วงเดือนมิถุนายน
  • Harvard University  เปิดเทอมช่วงเดือนมิถุนายน
  • California Institute of Technology เปิดเทอมช่วงเดือนเมษายน
  • University of Chicago  เปิดเทอมช่วงเดือนมิถุนายน

 

เรียนต่ออังกฤษ/สหราชอาณาจักร

 

ในการเปิดภาคเรียนที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี ซึ่งในครั้งนี้ทางบทความก็มีตัวอย่างการเปิดภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ ดังนี้

 

  • University of Cambridge - เปิดเทอมช่วงเดือนตุลาคม 
  • University of Oxford - เปิดเทอมช่วงเดือนตุลาคม
  • Imperial College London -  เปิดเทอมช่วงเดือนตุลาคม
  • UCL -  เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน 
  • The University of Edinburgh - เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน 

 

 

เรียนต่อออสเตรเลีย

 

ในการเปิดภาคเรียนที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในออสเตรเลีย จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี ซึ่งในครั้งนี้ทางบทความก็มีตัวอย่างการเปิดภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ ดังนี้

 

  • The University of Melbourne - เปิดเทอมช่วงเดือนมกราคม
  • University of New South Wales - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • The University of Sydney - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • Australian National University - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • Monash University - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์

 

เรียนต่อนิวซีแลนด์

 

ในการเปิดภาคเรียนที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในนิวซีแลนด์ จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ซึ่งในครั้งนี้ทางบทความก็มีตัวอย่างการเปิดภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ ดังนี้

 

  • University of Auckland - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • University of Otago - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • Massey University - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • Victoria University of Wellington - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์
  • University of Waikato - เปิดเทอมช่วงเดือนกุมภาพันธ์

 

เรียนต่อแคนาดา

 

ในการเปิดภาคเรียนที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในแคนาดา จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งในครั้งนี้ทางบทความก็มีตัวอย่างการเปิดภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยมาให้ ดังนี้

 

  • University of Toronto -  เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน
  • McGill University -  เปิดเทอมช่วงเดือนสิงหาคม
  • University of British Columbia - เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน
  • University of Alberta - เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน
  • University of Waterloo -  เปิดเทอมช่วงเดือนกันยายน

 

ในการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก็คือเอกสารต่างๆ เพื่อแสดงคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับเข้าเรียนในสาขาเรียนและมหาวิทยาลัยนั้นๆ สำคัญมากก็คือเกณฑ์คะแนน หากเป็นมหาวิทยาลัยในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ก็ต้องมีคะแนนสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ หนึ่งในนั้นก็คือการสอบ IELTS ซึ่งที่ยอมรับในสากล สำหรับการเรียนต่อ USA UK แนะนำว่าควรมี IELTS ขั้นต่ำ 6.5 ส่วนการเรียนต่อในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา แนะนำว่าควรมี IELTS ขั้นต่ำ 6.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่

 

 

สอบถามคอร์สเรียนและโปรโมชั่น

โทร : 098-281-3164

 

 

ทดลองเรียนฟรี!! คลิกเลย

โดย Wowprae.m
สินค้าที่เกี่ยวข้อง