ค่าสูงสุดสัมบูรณ์และค่าต่ำสุดสัมบูรณ์
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างสัมพัทธ์กับสัมบูรณ์ พิจารณากราฟของฟังก์ชัน ข้างบน จุด เป็นจุดสูงสุดสัมพัทธ์ ส่วนจุด และจุด เป็นจุดต่ำสุดสัมพัทธ์ ค่าสูงสุด/ต่ำสุดสัมพัทธ์จะมีกี่ค่าก็ได้ แต่ค่าสูงสุด/ต่ำสุดสัมบูรณ์ ในช่วงใดช่วงหนึ่งจะมีได้เพียงอย่างละ ค่า หรืออาจไม่มีเลย เมื่อพิจารณาในช่วง ถึง แล้ว
- จุด จะเป็นจุดต่ำสุดสัมบูรณ์เนื่องจากเป็นจุดที่มีค่าต่ำที่สุดในช่วงดังกล่าว
- จุด จะเป็นจุดสูงสุดสัมบูรณ์เนื่องจากเป็นจุดที่มีค่าสูงที่สุดในช่วงดังกล่าว
สำหรับเนื้อหาในระดับ ม.ปลาย จะกล่าวถึงจุดสูงสุด/ต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน ในช่วงปิด ใดๆ เท่านั้น เนื่องจากกราฟของฟังก์ชันไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่มีการกำหนดช่วงปิดมาเป็นขอบเขต เราไม่สามารถหาได้ว่าจุดใดจะเป็นจุดที่อยู่สูงหรือต่ำที่สุดนั่นเอง
ขั้นตอนการหาจุดสูงสุดสัมบูรณ์และจุดต่ำสุดสัมบูรณ์บนช่วงปิด ใดๆ ของฟังก์ชัน
- หาค่าวิกฤต ตามวิธีการในหัวข้อที่แล้ว
- นำค่าวิกฤตมาแทนค่าในฟังก์ชันเพื่อหา
- หาค่าของ และ
- เปรียบเทียบค่าที่ได้จากในข้อที่ 1 และ 2 เพื่อดูว่า
ค่าใดมีค่ามากที่สุด ค่านั้นคือค่าสูงสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน
ค่าใดมีค่าน้อยที่สุด ค่านั้นคือค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน - หากต้องการจุดสูงสุดสัมบูรณ์และจุดต่ำสุดสัมบูรณ์ให้ตอบในรูปคู่อันดับ
ตัวอย่างการหาจุดสูงสุดสัมบูรณ์และจุดต่ำสุดสัมบูรณ์
ตัวอย่างที่ 1
จงหาจุดสูงสุดสัมบูรณ์และจุดต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน บนช่วงปิด
จาก
จะได้
หาค่าวิกฤต กำหนด
เนื่องจาก ไม่อยู่ในช่วง ค่าวิกฤตจึงมีเพียงค่าเดียวคือ
จะได้
จะเห็นว่า มีค่ามากที่สุด ดังนั้น ค่าสูงสุดสัมบูรณ์จึงมีค่าเท่ากับ
และ มีค่าน้อยที่สุด ดังนั้น ค่าต่ำสุดสัมบูรณ์จึงมีค่าเท่ากับ
จุดสูงสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันในช่วง คือ
จุดต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันในช่วง คือ
ตัวอย่างที่ 2
จงหาจุดสูงสุดสัมบูรณ์และจุดต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชัน บนช่วงปิด
จาก
จะได้
หาค่าวิกฤต กำหนด
ค่าวิกฤตมี 2 ค่า คือ และ
จะได้
จะเห็นว่า มีค่ามากที่สุด ดังนั้น ค่าสูงสุดสัมบูรณ์จึงมีค่าเท่ากับ
ส่วน มีค่าน้อยที่สุด ดังนั้น ค่าต่ำสุดสัมบูรณ์จึงมีค่าเท่ากับ
เนื่องจากทั้ง และ เป็นค่าต่ำสุดสัมบูรณ์ทั้งคู่ ทำให้มีจุดต่ำสุดสัมบูรณ์ 2 จุด
จุดสูงสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันในช่วง คือ
จุดต่ำสุดสัมบูรณ์ของฟังก์ชันในช่วง คือ และ