ตอบ:

$$S2$$ เพราะเป็นการอธิบายความเชื่อต่อจากประโยคแรกว่าที่สัตว์รู้เหตุแผ่นดินไหวได้ เพราะมีการรับรู้เสียงต่างๆ ได้ดี

$$S1$$ These behaviors include, for example, dogs barking for hours, and wild animals, like deer, appearing confused or losing their natural fear of people.
$$S1$$ ยกตัวอย่างเช่น สุนัขอาจจะเห่าติดต่อกันหลายชั่วโมง หรือสัตว์ป่าอย่างพวกกวาง อาจจะเกิดอาการกระสับกระส่าย หรือจู่ๆ ก็ไม่หวาดกลัวมนุษย์เหมือนตามปกติ

$$S2$$ This belief is justified by the fact that many animals have such sensitive auditory capacities to hear noises from fracturing rock beneath the earth's surface.
$$S2$$ เราสามารถอธิบายความเชื่อนี้ได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าสัตว์นั้นจะมีความ สามารถในการฟังที่เฉียบแหลม สามารถได้ยินเสียงของหินที่กำลังแตกปริใต้พืนโลกได้

$$S3$$ In short, the observation of animals’ behaviors may increase the opportunity for humans' survival.
$$S3$$ สรุปแล้วก็คือ การสังเกตพฤติกรรมของสัตว์อาจช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของพวกเราได้นั่นเอง

$$S4$$ In response to these faint underground noises, animals have been known to exhibit many strange, unexpected behaviors.
$$S4$$ พอได้ยินเสียงผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างแผ่วเบาใต้ผืนโลก สัตว์ทั้งหลายมักแสดงอาการแปลกๆ หรือพฤติกรรมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

$$S5$$ Japan and China frequently suffer from earthquakes, which injure or kill many people and damage or destroy their homes.
$$S5$$ ประเทศญี่ปุ่นกับจีนมักจะประสบปัญหาแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย รวมถึงบ้านเรือนของประชาชนก็เสียหายหรือถูกทำลายราบคาบ

$$S6$$ The belief that animals can sense an earthquake before it occurs much earlier than humans has been held since at least the time of the ancient Greeks.
$$S6$$ การที่คนเชื่อกันว่าสัตว์ทั้งหลายนั้นสามารถรับรู้ได้ล่วงหน้าว่าจะมีแผ่น ดินไหวเกิดขึ้นก่อนมนุษย์นั้นมีมานานแล้ว อย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ