รวมเทคนิคทำข้อสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนสูงๆ ใครจะไปสอบ TOEIC ต้องอ่าน!

รวมเทคนิคทำข้อสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนสูงๆ ใครจะไปสอบ TOEIC ต้องอ่าน!

อยากสอบTOEIC ให้ได้คะแนนสูงๆ แต่มีเวลาเตรียมตัวน้อย ไม่คุ้นกับรูปแบบข้อสอบ TOEIC เท่าไหร่ ต้องอ่านซีรีส์ HACK โจทย์ TOEIC เลย!

        การสอบ TOEIC เป็นการสอบที่หลายๆท่านอาจจะต้องใช้สอบเพื่อการสมัครเรียน สมัครงาน หรือการเปลี่ยนสายงาน ขยับตำแหน่งงาน เป็นต้น โดยแต่ละที่ก็มักมีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำที่ต้องใช้และคะแนนสอบ TOEIC เองก็ถือเป็นหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณาการรับคนเข้าทำงานในบางที่อีกด้วย จึงทำให้ผู้สอบส่วนใหญ่รู้สึกกังวลว่าจะต้องทำอย่างไร ถึงจะได้คะแนนสอบที่ต้องการ บทความนี้จึงมาแนะเทคนิคที่จะช่วยให้ผู้สอบได้คะแนนสูงตามที่คาดหวังไว้ หากนำไปปรับใช้จริง รับรองได้ว่าคะแนนพุ่งแน่นอน!

 

สารบัญ

 

ลักษณะข้อสอบTOEIC

        ข้อสอบTOEIC (Test of English for International Communication) เป็นข้อสอบที่ใช้วัดทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ทั้งภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน และการทำงาน โดยรูปแบบข้อสอบจะประกอบด้วย 2 ส่วนได้แก่

 

1. การฟัง (Listening Comprehension) 

    ผู้สอบจะได้ฟังคำถาม เรื่องเล่า การนำเสนอ และบทสนทนา โดยข้อสอบจะมีจำนวน 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนนประกอบด้วย 4 พาร์ทดังนี้

        1.1 Photograph 

            เป็นข้อสอบฟังคำบรรยาย 4 ข้อ แล้วเลือกตอบคำถามข้อที่ตรงกับรูปมากที่สุด โดยภาพที่ออกข้อสอบจะเป็นภาพที่เป็นเหตุการณ์ที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่น ภาพการประชุม ภาพการพูดคุยกัน เป็นต้น ผู้สอบจะต้องฟังตัวเลือกเองทั้งหมด และเลือกตัวเลือกที่ตรงกับภาพมากที่สุดเพียง 1 ตัวเลือก

            ตัวอย่าง 

  A mechanic holding a wrench and fixing a car's engine
(Script ที่ผู้สอบจะได้ฟัง)

                        A. A mechanic is enjoying his lunch. 

                        B. A car is being fueled at the gas station.

                        C. A man is cleaning the car.

                        D. A mechanic is checking the car’s engine.

                คำตอบที่ตรงกับภาพมากที่สุดคือข้อ (D) A mechanic is checking the car’s engine. (ช่างคนหนึ่งกำลังตรวจเครื่องยนต์รถ) จากตัวเลือกที่ให้ฟัง ทุกตัวเลือกล้วนมีคำที่เกี่ยวกับรถทั้งหมด ผู้สอบจะต้องจับ keyword เพิ่มเติมที่มากกว่าคำว่า car ให้ได้

 

        1.2 Question - Response 

            เป็นข้อสอบที่ให้ผู้สอบฟังทั้งโจทย์คำถามและตัวเลือก 3 ตัวเลือก โดยผู้สอบต้องเลือกคำตอบที่เหมาะสมกับคำถามที่ได้ฟังมากที่สุดโดยคำถามที่ออกบ่อยได้แก่คำถามเกี่ยวกับวิธีการเดินทาง เวลานัดหมาย สถานที่นัดพบ เป็นต้น

            ตัวอย่าง 

(Script ที่ผู้สอบจะได้ฟัง)

How can I get to the nearest train station?

            A. The nearest one is about 2 kilometers away.

            B. Sorry, I’m not from around here.

            C. Yes, the station is very near.

 

คำตอบที่ใกล้เคียงกับโจทย์มากที่สุดคือ (B) Sorry, I’m not from around here. 

จะสังเกตว่าคำตอบที่ได้ฟัง จะไม่ใช่คำตอบที่ตรงไปตรงมา เช่นตัวอย่างในข้อนี้ถามถึงสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด แต่คำตอบกลับเป็นว่า ผู้ตอบไม่ใช่คนแถวนี้  ดังนั้นผู้ฟังต้องฟังและเข้าใจคำถามและตัวเลือกทั้งหมด ก่อนจะตอบคำถามได้

 

        1.3 Conversation 

            เป็นรูปแบบการสอบที่ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนา 1 เรื่อง และตอบคำถาม 3 ข้อ ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาทั้งหมด อ่านโจทย์และตอบคำถามให้ถูกต้องไปพร้อมๆกัน โดยบทสนทนาที่ออกข้อสอบบ่อย มักเป็นเรื่องการเปลี่ยนนัดหมาย การเปลี่ยน/คืนสินค้า การสมัคร/สัมภาษณ์งาน ปัญหาต่างๆในที่ทำงาน การบอกสถานที่ เป็นต้น

            ตัวอย่าง

A question with 4 choices of answer

            (Script ที่ผู้สอบจะได้ฟัง)

            F: Hello, Uncle Tony’s Shop. Mary Jane speaking, how may I help you?

            M: Hi. This is Frank Lennox. I’d like to know when I can receive my fixed computer?

            F: Tes, sure. Can I have your reference number please?

            M: Yes. It’s F2140.

            F: Okay. And just to be sure, what is the brand of your computer?

            M: It’s an Oscar Laptop.

            F: Let me see. Oh, we’re just waiting for the spare part to arrive this Thursday. After receiving it, the repair can be done in an hour.

            M: So can I pick it up by Thursday afternoon?

            F: Let me check with our staff and I will call you back very soon.

                จากข้อมูลในบทสนทนา คำตอบคือข้อ (D) To know when he can receive his fixed computer (เพื่อรู้ว่าเขาจะได้รับคอมพิวเตอร์ที่นำไปซ่อมเมื่อไหร่) จะสังเกตุว่า ในตัวเลือกมีคำว่า his computer ทั้งหมด เพื่อหลอกให้ผู้ฟังที่จับใจความได้บางคำเกิดความสับสน 


 

        1.4 Short Talk 

            เป็นรูปแบบการสอบที่ผู้สอบจะได้ฟังบทบรรยายพูดสั้นๆ 1 เรื่อง เพื่อตอบคำถาม 3 ข้อ ตัวอย่าง short talk ได้แก่ ข่าวด่วน โฆษณา ประกาศ สรุปประชุม เป็นต้น

 

            ตัวอย่าง

A question with 4 choices of answer

            (Script ที่ผู้สอบจะได้ฟัง)

            Welcome listeners. You're listening to 102.5 Flash Talks Radio. You're with me, Ronald Grays. In this hour, I'll help you catch up with the latest local news.First, the local health and social services office has announced that the COVID vaccine is available for everyone that lives in Suan Luang. Those interested can walk in at your nearest center this Friday, February 22nd from 9:00 AM to 12:00 PM. Don't forget to wear a face mask and bring your ID card with you.

            เมื่อพิจารณาจาก script ข้างต้น ตัวเลือกที่เหมาะกับคำถามที่สุดคือข้อ (B) A free health service (บริการด้านสุขภาพที่ไม่มีค่าใช้จ่าย) 

            หากผู้ฟังจับคำ keyword ได้เพียง COVID ก็อาจจะตอบข้อ (A) เนื่องจากห็นคำว่า pandemic (โรคระบาด) อยู่ในข้อ ทั้งนี้จาก script จะสังเกตุได้ว่า ไม่ได้มีคำว่า free health service อยู่ใน script แต่อย่างได้ ผู้ฟังต้องอนุมานเองว่า  the COVID vaccine is available for everyone (มีวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้สำหรับทุกคน) = A free health service (บริการด้านสุขภาพที่ไม่มีค่าใช้จ่าย) 

ในพาร์ทการฟังนี้ ผู้สอบจะมีเวลา 45 นาที ในการฟังและตอบคำถาม โดยสามารถฟังได้เพียง 1 รอบเท่านั้น!


 

2. การอ่าน (Reading Comprehension) 

ผู้สอบจะได้อ่านบทความหรือข้อความหลากหลายรูปแบบ จากนั้นตอบคำถาม โดยข้อสอบจะมีจำนวน 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนนและมีเวลาให้เพียง 75 นาที ข้อสอบจะประกอบด้วย 3 พาร์ทดังนี้

        2.1 Incomplete Sentences 

เป็นข้อสอบที่ให้เลือกเติมคำหรือวลี ลงในช่องว่างของประโยค ในส่วนนี้จะวัดความเข้าใจในเรื่องไวยากรณ์และคำศัพท์ของผู้สอบ

 

ตัวอย่าง

An incomplete sentence with 4 choices of answer
คำถามข้อนี้เป็นคำถามเพื่อวัดความเข้าใจในเรื่องไวยากรณ์ โดยผู้สอบนอกจากจะต้องแยกหน้าที่ของคำได้แล้ว ยังต้องทราบถึงโครงสร้างการใช้คำคู่ เช่น เห็น get (บอกให้ทำ) ตามด้วย the instrcuctions (คำสั่งในคู่มือ) จึงน่าจะใช้โครงสร้าง get + บางสิ่ง + V.3 (Past Participle) แปลว่า สั่งให้บางสิ่งถูกทำ จึงเลือกกริยา V.3 คือข้อ (D)

 

        2.2 Text Completion 

            ผู้สอบต้องเลือกเติมคำ วลี หรือประโยคที่เหมาะสม ลงในช่องว่างของบทความ โดยบทความที่จะอยู่ในข้อสอบส่วนมากมักเป็น อีเมล ใบประกาศ หรือโฆษณา เป็นต้น ข้อสอบในส่วนนี้จะวัดความเข้าใจเนื้อเรื่องที่อ่าน โครงสร้างไวยากรณ์ และความหมายของคำศัพท์ 

 

        2.3 Reading Comprehension 

            ผู้สอบจะได้อ่านบทความ 1-3 บทความประกอบกัน เพื่อตอบคำถาม โดยบทความมักเป็น ประกาศรับสมัครงาน ตาราง โฆษณา และอีเมล์ โดยบทความทั้ง 1-3 บทความ จะเป็นบทความคนละประเภท แต่มีเนื้อหาต่อกัน เช่น บทความแรกเป็นประกาศรับสมัครงาน บทความต่อมาจะเป็นอีเมล์สอบถามถึงเรื่องงาน และอีกบทความเป็นอีเมล์ตอบกลับคำถามที่ส่งเข้ามา เป็นต้น 


 

ทำไมการสอบ TOEIC ถึงยาก

1. เวลาสอบมีจำกัด

 

An Asianwoman wearing a yellow sweater, looking worried as she raises her eyebrows covers her month with the right hand and while holding a clock with the left hand

 

            ข้อสอบ TOEIC เป็นข้อสอบที่นอกจากจะวัดเรื่องความเข้าใจในการใช้ภาษาอังกฤษแล้ว ยังวัดเรื่องการจัดการเวลาในการสอบด้วย โดยในส่วนของการฟัง ผู้สอบมีเวลาเพียง 8 วินาทีในแต่ละพาร์ทเพื่อตัดสินใจเลือกคำตอบ และในส่วนของการอ่าน ผู้สอบต้องตอบคำถามจำนวน 100 ข้อ โดยมีเวลาเพียง 75 นาทีในการทำเท่านั้น (เฉลี่ยแล้วข้อละไม่ถึง 1 นาที) จึงมักพบปัญหาการทำข้อสอบไม่ทัน ทิ้งดิ่งหรือเว้นว่างไว้เยอะ ทำให้เสียโอกาสในการทำคะแนน


 

2. หลุดโฟกัสง่าย เพราะฟังได้รอบเดียว

 

A curly-haired tan woman wearing earphones on her neck holding a phone and looking unsatisfied

 

            ในส่วนของพาร์ทการฟัง ผู้สอบต้องทำข้อสอบการฟัง 100 ข้อให้จบภายใน 45 นาที ผู้สอบจะได้ฟังบทบรรยายเพียงครั้งเดียว และหลังจากเทปจบผู้สอบจะไม่สามารถกลับไปตอบคำถามได้อีก บ่อยครั้งจึงพบปัญหาผู้สอบสมาธิหลุด ติดอยู่กับข้อที่ตอบไม่ได้ จนทำให้เสียโฟกัส ไม่สามารถตอบข้อต่อไปได้ ทำให้แม้ส่วนต่อไปจะง่ายเพียงใด กลับเสียคะแนนไปอย่างน่าเสียดาย


 

3. ไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์และประโยคที่ใช้ในการทำงาน

 

English vocabularies in many pieces of paper sticking on the black background

 

              ข้อสอบTOEIC มักมีรูปแบบประโยคและคำศัพท์ที่พบมากในที่ทำงาน ผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงานหรือยังไม่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน อาจไม่คุ้นชินกับข้อสอบลักษณะนี้มากนัก ดังนั้นผู้สอบจึงต้องฝึกให้ตรงจุด เพื่อให้ได้คะแนนตามเป้าหมายที่วางไว้ 

 

 

4 เทคนิคเตรียมสอบ TOEIC ให้คะแนนพุ่งขึ้นจริง

1. แผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

A cartoon character holding a pencil on the left and a checklist points with red checks on the right

         

            ผู้สอบควรมีการวางแผนในการเตรียมสอบที่ดี โดยการวางแผนการอ่านหนังสือไว้ให้ชัดเจน ระบุวันฝึกทำโจทย์และทบทวนหัวข้อต่างๆที่จะใช้ในการสอบ ผู้สอบจะต้องกำหนดวันสอบให้แน่ชัด เพื่อที่จะได้รู้ว่าตนเหลือเวลาในการเตรียมตัวฝึกทำโจทย์และอ่านหนังสือทบทวนอีกเท่าไหร่ เพราะหากไม่มีการกำหนดวันเลย อาจทำให้ผู้สอบขาดวินัย และผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ควรมีการกำหนดคะแนนที่อยากได้ในแต่ละพาร์ทอย่างชัดเจน เนื่องจากการตั้งเป้าหมายคะแนนจะช่วยให้

            ผู้สอบมีแรงบันดาลใจและมีวินัยมากยิ่งขึ้น ผู้สอบจะรู้ว่าตนต้องทำกี่ข้อ สามารถผิดได้กี่ข้อ จึงจะสามารถทำคะแนนดังกล่าวได้ 


 

2. ฝึกฟัง/อ่านให้ตรงจุด


 

A woman with a white shirt writing something on a notebook while reading some paper on the table and there is a laptop in front of her

 

            ในส่วนของการฝึกฟังและอ่าน ไม่ใช่เพียงการฟังหรืออ่านเรื่องอะไรก็ได้ เช่น การฟังเพลง ดูหนังแอ็คชั่นที่ตนชอบ หรืออ่านนิยาย เพราะการฟังหรืออ่านในรูปแบบที่ยกมาข้างต้น อาจไม่ได้ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์และรูปแบบประโยคที่มีโอกาสได้พบในข้อสอบจริงมากนัก ดังนั้นผู้สอบควรเลือกฝึกฟังการบรรยายบทสนทนาที่เป็นสถานการณ์ต่างๆ เช่น การซื้อของ การนัดพบ/นัดรับของ การต่อรอง เป็นต้น ลองตอบคำถามเล่นๆดูว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร หากสามารถตอบคำถามได้หมด ก็แปลว่าผู้สอบมีความเข้าใจบทสนทนานั้นจริงๆ ในส่วนของการอ่านนั้น ผู้สอบควรฝึกอ่านข้อความหลายๆรูปแบบ เช่น โฆษณา อีเมล์ ข่าว รีวิว ประกาศต่างๆและบทความ/ผลการวิจัยสั้นๆ เป็นต้น ระหว่างการฝึกผู้สอบควรจดคำศัพท์และรูปแบบประโยคที่พบบ่อยๆ เพื่อนำมาอ่านและทบทวนภายหลัง

 


3. วิเคราะห์จุดแข็ง และจุดอ่อนของตนด้วยการลองทำข้อสอบจริง

            การลองฝึกทำข้อสอบจริง จะช่วยให้ผู้สอบรู้ว่าตนเองถนัดและไม่ถนัดในเรื่องใด โดยผู้สอบจะต้องบันทึกหัวข้อที่ตอบได้ และหัวข้อที่ตอบผิดบ่อยๆ จากนั้นให้เวลาตนเองเพิ่มขึ้นในการฝึกพาร์ทที่ผิดบ่อยหรือไม่คุ้นชินมากนัก ผู้สอบต้องรู้ว่าข้อสอบแต่ละข้อที่ทำ ต้องการวัดเรื่องอะไร เช่นวัดคำศัพท์ วัดไวยากรณ์เรื่องไหน หรือวัดการฟังประเภทอะไร เพื่อให้สามารถประเมินเรื่องที่ต้องไปศึกษาหรือฝึกเพิ่มเติมได้ หากไม่มีการกำหนดหัวข้อหรือรูปแบบการข้อสอบที่ไม่ถนัดในการทบทวนเลย จะทำให้ผู้สอบโฟกัสผิดจุด ไม่ได้แก้จุดที่ตนไม่ถนัด และเสียเวลาในการเตรียมตัวได้

 

4. จำลองการสอบเสมือนจริง

A woman cartoon character sitiing and writing something on  a desk while there are an exam paper, a stopwatch, a few book, and a globe as a background

 

        ในช่วง 3 วันก่อนสอบ ผู้สอบควรจำลองบรรยากาศเสมือนสอบจริง เปิดข้อสอบในพาร์ทการฟังเพียงครั้งเดียว ไล่ยาวตั้งแต่รูปแบบการสอบแรกจนจบ เมื่อฟังจบแล้วให้เริ่มพาร์ทการอ่านทันที ใช้หูฟังแบบเสียบเหมือนที่จะได้ใช้ในห้องสอบจริง  มีการจับเวลาในการทำข้อสอบ โดยพาร์ทการอ่าน ให้จับเวลาจริงที่ 75 นาทีเท่านั้น การจัดสรรเวลาในการทำข้อสอบที่ดี จะช่วยให้ผู้สอบสามารถทำข้อสอบได้ทันในเวลาที่กำหนด

        ในส่วนข้อสอบพาร์ทการฟัง จะอนุญาตให้ผู้สอบฟังเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ผู้สอบจึงต้องตั้งสติในการฟังให้ดี ในช่วงที่เทปบรรยายรูปแบบการทำข้อสอบในแต่ละพาร์ท แนะนำให้ผู้สอบลองพลิกดูข้อสอบในพาร์ทนั้น ว่าข้อสอบถามอะไร สถานการณ์ที่จะได้ยินเป็นแบบไหน เพื่อเตรียมตัวฟังล่วงหน้า ระหว่างฟังคำบรรยายในข้อ ให้ทำและตอบคำถามไปเลย ข้อที่ฟังไม่ทันให้ mark ไว้หน้าข้อก่อนและเมื่อฟังจบ 1 เรื่องแล้ว ให้เลือกตอบข้อที่ทำไม่ได้ทันที และอ่านโจทย์ในส่วนต่อไปเลย อย่าเสียเวลาทำหรือนั่งคิดข้อที่ทำไม่ได้แล้ว เพราะอาจจะทำให้ผู้สอบพลาดการทำข้ออื่นๆไป

        พาร์ทการอ่าน แนะนำให้ผู้สอบใช้เวลาทำพาร์ท Incomplete Sentences ข้อละ 30-45 วินาที หากใกล้ถึงเวลาที่กำหนดแล้วผู้สอบยังไม่สามารถทำข้อนั้นได้ ให้ mark ไว้หน้าข้อก่อน และข้ามไปทำข้อถัดไปทันที จากนั้นใช้เวลา 3 นาทีในการเลือกข้อที่ยังตอบไม่ได้ในช่วงแรกก่อนขยับไปทำพาร์ทอื่น  สำหรับพาร์ท Text Completion และ Reading Comprehension ผู้สอบควรใช้เวลาอ่านและตอบคำถามบทความละไม่เกิน 5 นาที โดยผู้สอบต้องเลือกอ่านเฉพาะ keywords ดูคำถามก่อนว่าถามหาอะไร จากนั้น scan ในบทความ เมื่อเจอแล้วให้ตอบไปเลย หากข้อไหนทำไม่ได้ให้ mark ไว้หน้าข้อก่อน เมื่อใกล้หมดเวลา 5 นาทีที่กำหนดไว้ ให้กลับไปฝนข้อที่ mark ไว้ตอนต้น และข้ามไปอ่านบทความถัดไปทันที

        ตอนนี้ผู้ที่จะไปสอบหลายๆคน ก็คงจะรู้จักหน้าตาข้อสอบ TOEIC และได้เทคนิคการเตรียมตัวสอบดีดีกันไปเรียบร้อยแล้ว บอกเลยว่าถ้านำเทคนิคทั้งหมดนี้ไปใช้ในการเตรียมตัวสอบแล้วล่ะก็ การสอบ TOEIC ในคราวหน้าที่ตั้งใจจะทำคะแนนให้ได้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป


 

ชีท Hack โจทย์ TOEIC จะช่วยอัพคะแนนได้ยังไง 

            ตัวช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่จะสอบ TOEIC ให้ได้ฝึกทำข้อสอบเสมือนได้เข้าไปนั่งสอบจริง ซึ่งรวบรวบทั้งแนวข้อสอบ จำลองสถานการณ์ มีการอธิบายเฉลยอย่างละเอียดให้เข้าใจทุกจุด และเทคนิคการทำข้อสอบให้ผู้สอบสามารถโกยคะแนนได้รัวๆ นอกจากนี้ยังสามารถประเมินระดับภาษาอังกฤษ เพื่อให้รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเองได้อีกด้วย


 

A pink book with a smiling man on the left and a green book on the right


 

1. รวมข้อสอบเสมือนจริงครบทุกพาร์ทกว่า 400 ข้อ 

1.1 ได้ฝึกทำโจทย์ที่คล้ายคลึงกับข้อสอบ

หลายคนเข้าไปในห้องสอบแล้วเลือกคำตอบผิดหรือกาคำตอบผิดช่องเพียงเพราะไม่เข้าใจคำสั่ง และวิธีการทำข้อสอบ ทำให้คะแนนหายไปอย่างน่าเจ็บใจ ชีท Hack โจทย์ TOEIC จึงออกแบบมาให้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันกับข้อสอบจริงมากที่สุด ทั้งแนวข้อสอบ ระดับความยาก จำนวนพาร์ท จำนวนข้อ ไฟล์เสียงเจ้าของภาษา รวมไปถึงหน้าตาของกระดาษคำตอบ เพื่อให้ผู้สอบคุ้นชินกับการทำข้อสอบ TOEIC ได้มากที่สุด 


 

Questions with four choices of answer on the left and a pink exam paper on the right

 

1.2 จำลองบรรยากาศการสอบให้เหมือนจริง

ไม่ต้องเสียเงินมาก ๆ ไปทดลองสอบเองก่อน 1 ครั้ง เพราะชีท Hack โจทย์ TOEIC มีการจำลองบรรยากาศการสอบมาให้แล้ว โดยจะมีการจับเวลาในการทำข้อสอบเสมือนจริง และมีเสียงผู้คุมสอบบอกหมดเวลาให้กับผู้สอบอีกด้วย


 

A listening test  with a picture of a mechanic trying to fix a car above and an Ipad with on the screen  below


 

2. มีเฉลยละเอียดให้ทุกข้อ พร้อมเทคนิคลัดพิเศษจากครูดิว

            2.1 เฉลยอธิบายเข้าใจง่าย แม้พื้นฐานน้อย

เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่แค่รู้คำตอบที่ถูกต้องก็เข้าใจ แต่ต้องรู้ด้วยว่าทำไมถึงเลือกคำตอบข้อน้ัน และมันสอดคล้องกับบริบทยังไง เฉลยภายในชีท Hack โจทย์ TOEIC จึงเฉลยเป็นภาษาไทยและอธิบายที่มาที่ไปของคำตอบไว้อย่างละเอียดให้อ่านทำความเข้าใจได้ง่าย โดยบอกตั้งแต่โจทย์ข้อนี้เขาต้องการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษกับผู้สอบเรื่องอะไร มีการแปลโจทย์และตัวเลือกคำตอบให้เข้าใจมากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีคิดในการหาคำตอบให้แบบเจาะลึกทีละข้อ แม้จะไม่มีพื้นฐานหรือมีพื้นฐานน้อยก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย

 

An Ipad with answers' explanation on the screen


 

            2.2 แทรกเทคนิคลัดพิเศษจากครูดิว

อยากได้เทคนิคลัดพิเศษที่ช่วยให้ทำข้อสอบ TOEIC ได้ง่ายขึ้น ชีท Hack โจทย์ TOEIC รวบรวมเทคนิคพิเศษจากครูดิวมาให้แล้ว! ไม่ว่าจะเป็นการบอกจุดข้อควรระวังที่คนมักพลาดบ่อยในการทำข้อสอบ TOEIC แต่ละพาร์ท และเทคนิคการจำที่ช่วยให้ตอบได้ทันทีแบบพิเศษไม่ซ้ำใคร สอนให้เข้าใจง่ายกว่าพร้อมยกตัวอย่างประกอบ เก็บคะแนนได้รัวๆ แน่นอน


 

An Ipad screen with an incomplete sentence and four choices of words while there is a man smiling and pointing at the board

 
 

3. เจอข้อสอบยากก็ทำได้! ด้วย Hint ตัวช่วยไกด์ให้ทำข้อสอบได้ เฉพาะใน Hack โจทย์ TOEIC เท่านั้น

        หลายคนมักกังวลเวลาเจอข้อสอบยาก จนทำให้รนและคิดอะไรไม่ออก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าผู้เรียนวิเคราะห์ข้อสอบเป็น และ Hint ก็คือตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ข้อสอบได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอนให้มองหาคำใบ้ในข้อสอบ หรือการเดาคำตอบจากบริบทในข้อสอบ ให้ผู้เรียนสามารถเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ไวที่สุด ถึงข้อสอบจะยากแค่ไหน แต่ถ้าวิเคราะห์ข้อสอบเป็นก็ทำโจทย์ได้สบายๆเลย

        ซึ่งในระหว่างที่ผู้เรียนฝึกทำข้อสอบ แล้วมีข้อที่ไม่แน่ใจว่าตอบข้อไหน หรือทำข้อสอบไม่ได้ ผู้เรียนสามารถเปิด Hint ตัวช่วยที่ 1 เพื่อดูวิธีการวิเคราะห์ข้อสอบ โดยจะให้มาเป็นคำใบ้จุดสังเกตในข้อสอบที่ช่วยให้หาคำตอบได้ พร้อมบอกว่าโจทย์ข้อนี้เขาต้องการวัดความรู้ผู้เรียนเรื่องอะไรอยู่

 

A page with  two answer's guides telling what to focus on each question


 

        แต่ถ้าผู้เรียนเปิด Hint ตัวช่วยที่ 1 แล้วยังไม่สามารถเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้อีก ผู้เรียนก็ยังสามารถเปิด Hint ตัวช่วยที่ 2 เพื่อดูวิธีการวิเคราะห์ข้อสอบที่ให้คำใบ้มากขึ้น โดยจะมีการบอก Keyword สำคัญ พร้อมบอกแนวโน้มคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ให้ และการแปลคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์สำคัญในโจทย์ เพื่อให้ผู้เรียนได้ลองพยายามทำข้อสอบด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน แล้วค่อยตรวจคำตอบที่เฉลยละเอียด ซึ่งวิธีการใช้ Hint นี้จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกการวิเคราะห์ข้อสอบไปเรื่อยๆ จนชำนาญเลยค่ะ

 

A page with one answer's guides telling what topic to focus on and vocabularies and meaning

 

4. บอกจุดอ่อนและประเมินคะแนนได้อย่างแม่นยำ ด้วยตารางประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ

            4.1 ตารางเทียบคะแนน TOEIC แบบเชื่อถือได้ 

ผลคะแนนที่ทำได้จากข้อสอบจำลองในชีท Hack โจทย์ TOEIC สามารถเทียบเป็นคะแนน TOEIC ได้เลย ด้วยเกณฑ์วัดคะแนนที่มีความแม่นยำ เชื่อถือได้  จะช่วยบอกว่าความรู้ของผู้เรียนในตอนนี้พร้อมที่จะไปสอบ TOEIC แล้วหรือยัง ทำให้ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาไปสอบบ่อยๆ แต่ได้คะแนนไม่ถึงตามที่ตั้งเป้าไว้เสียที ถ้าผู้เรียนฝึกทำข้อสอบในชีท Hack โจทย์ TOEIC แล้วได้คะแนนถึงตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็สามารถไปสอบ TOEIC ได้อย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงที่ต้องไปสอบหลายรอบได้อีกด้วย 


 

A green page with score tables
 

            4.2 เรื่องไหนที่ยังอ่อนอยู่ ก็รู้ได้ด้วย Overall Analysis และตารางวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง

        วิธีเตรียมตัวสอบที่ดีที่สุดไม่ใช่การอ่านสอบให้ครบทุกเรื่อง แต่คือการรู้ว่าตัวเองยังอ่อนเรื่องอะไร หรือเก่งเรื่องอะไร เพื่อให้สามารถเตรียมตัวสอบไปได้อย่างตรงจุด ไม่เสียเวลา 

            4.2.1 เช็กรูปแบบข้อสอบที่ถนัดและยังอ่อนอยู่ได้จาก Overall Analysis 

ผู้เรียนสามารถเช็กได้ว่าเราถนัดทำข้อสอบรูปแบบไหน เช่น แบบเติมคำในประโยคของพาร์ทที่ 1 การอ่านประกาศในพาร์ทที่ 2 หรือการอ่านบทความในพาร์ทที่ 3 หากทำข้อสอบได้ไม่ทันเวลาจะได้เลือกกลับมาทำในพาร์ทที่เราถนัดที่สุดก่อนได้ และหากรู้ว่าพาร์ทไหนที่ยังอ่อนอยู่ Overall Analysis ก็มีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวทำข้อสอบรูปแบบต่างๆ เอาไว้ให้อีกด้วย



 

Test's result instruction and description


 

            4.2.2 ตารางวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง บอกได้ว่าเรื่องไหนที่ยังอ่อนอยู่

ข้อสอบ TOEIC วัดความรู้ทางภาษาหลายเรื่องมาก จะให้อ่านครบทุกเรื่องก็ไม่รู้จะได้สอบวันไหน เพราะอ่านไม่ครบสักที ตารางวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งจะช่วยบอกให้ว่าผู้เรียนยังอ่อนเรื่องใดอยู่ เพื่อให้สามารถพัฒนาได้อย่างตรงจุด และย่นระยะเวลาการเตรียมตัวสอบให้น้อยลงได้อีกด้วย 


 

A table with small yellow and white squares and some topics on the table

 

            สำหรับผู้ที่ต้องการที่ต้องการสอบ TOEIC และมีคะแนนเป้าหมายในใจแล้ว แต่ยังกังวลว่าไปสอบแล้วจะได้คะแนนไม่ดีหรือไม่รู้จะต้องเริ่มเตรียมตัวอ่านสอบยังไง ชีท Hack โจทย์ TOEIC จะช่วยให้สามารถเตรียมตัวสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน ด้วยการออกแบบให้ผู้เรียนสามารถฝึกทำโจทย์ที่คล้ายคลึงกับข้อสอบ และจำลองสถานการณ์ให้เหมือนกำลังสอบจริง พร้อมมีเฉลยข้อสอบอย่างละเอียดและเทคนิคพิเศษจากครูดิวที่คนพื้นฐานน้อยก็เข้าใจได้ง่ายๆ และยังมี Hint เทคนิควิเคราะห์ข้อสอบที่จะช่วยให้ทำข้อสอบ TOEIC ได้ง่ายเก็บคะแนน TOEIC รัวๆ ที่สำคัญ ชีท Hack โจทย์ TOEIC ยังมีตารางประเมินความสามารถทางภาษา ช่วยให้ผู้เรียนไม่ต้องเสียเวลาเตรียมตัวสอบเยอะด้วยนะ




 

อยากได้ชีท Hack โจทย์ TOEIC ต้องทำยังไง


 

two books with TOEIC  words and on a smiling man on the covers while there is an Ipad showing a man providing Grammar tutoring on the right
 

สามารถสั่งซื้อชีท Hack โจทย์ TOEIC  ได้โดยใช้ส่วนลดพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 890.- เท่านั้นจากราคาเต็ม  1,280 บาท เพียงแจ้งโค้ด “OPENTM700” สิทธิ์มีจำนวนจำกัดรีบสั่งซื้อเลย!!!

 

                                   a printed blue code coupon with a Facebook logo

สั่งซื้อผ่าน Inbox เพจ คลิก

 

a printed orange code coupon with a Shopee logo

สั่งซื้อผ่าน Shopee ร้าน OpenDurian คลิก


 

 หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถพูดคุยกับแอดมินเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนะคะ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คอร์สเรียนที่เกี่ยวข้อง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดการใช้งานคุกกี้

เพื่อประโยชน์และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของ บริษัท โอเพ่นดูเรียน จํากัด (“โอเพ่นดูเรียน”) โอเพ่นดูเรียนจึงใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับนโยบายคุกกี้ของโอเพ่นดูเรียนได้ที่ นโยบายคุกกี้ และคุณสามารถปฏิเสธคุกกี้ได้