Digital SAT คืออะไร? ข้อสอบเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? มาดูกัน!

สอบ SAT จะเปลี่ยนเป็น Digital SAT เมื่อไร?

ต้นปีหน้า (2023) ข้อสอบ SAT เปลี่ยนแน่! เพราะทาง CollegeBoard ผู้ออกข้อสอบ SAT ได้ประกาศ และเริ่มปล่อยข้อมูลของ Digital SAT มาแล้ว!

รูปแบบการสอบ Digital SAT นั้นจะเริ่มใช้ในรอบสอบประมาณช่วงมีนาคม 2023

*แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องคอยติดตามข่าวประกาศอีกครั้งค่ะ

สำหรับคนที่วางแผนจะสอบ SAT ในปีหน้า คงต้องทำใจว่า สิ่งที่เราเคยเตรียมตัวมา อาจจะไม่ได้เอามาใช้ได้ทั้งหมด (แต่ก็ไม่ใช่ว่าเสียเปล่าซะทีเดียว เพราะว่าเนื้อหาส่วนมากจะยังเหมือนเดิมค่ะ)

Digital SAT มีอะไรที่ยังเหมือนเดิมบ้าง?

1. เนื้อหาที่ออกสอบเหมือนเดิม

ภาษาอังกฤษยังคงออกในแนว Academic, Literature, History/Social Studies, Humanities, Science เหมือนกับ Paper-based SAT
คณิตศาสตร์หัวข้อที่วัดจะยังเหมือนเดิมคือ Algebra, Advanced Math, Problem-Solving & Data Analysis, Geometry and Trigonometry

2. วิธีการตอบคำถาม

ยังเป็น Multiple-Choice 4 ตัวเลือกเหมือนเดิม (Math จะยังคงมีทั้งเลือกตอบ และแบบ Grid-in ใส่คำตอบเอง)

3. Scale คะแนน

คะแนน SAT จะยังคงเต็ม 1600 เท่าเดิม

Digital SAT อะไรเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

1. จำนวนข้อสอบลดลง และใช้เวลาสอบน้อยลง

SAT Verbal จากเดิมรวมประมาณ 96 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง
>> Digital SAT: Reading & Writing รวมกัน 54 ข้อ ใช้เวลา 64 นาที
SAT Math เดิมมี 58 ข้อ ใช้เวลา 80 นาที
>> Digital SAT: Math จะมี 44 ข้อ ใช้เวลา 70 นาที
เวลารวมทั้งหมดจากเดิมประมาณ 3 ชั่วโมง >> เหลือ 2 ชั่วโมง 14 นาที

โดยเฉลี่ยต่อข้อ เราจะมีเวลาทำต่อข้อมากขึ้นค่ะ และในการสอบ Digital SAT จะมีการแทรกข้อสอบที่ไม่คิดคะแนน (Unscored) ไว้ด้วย โดยในส่วนภาษาอังกฤษจะมีแทรกไว้ 4 ข้อ และคณิตศาสตร์แทรกไว้อีก 4 ข้อ *โดยเค้าจะเรียกว่าเป็น pretest questions ค่ะ

2. ข้อสอบจะเป็น Adaptive Test และแบ่งเป็น 2 Modules

Adaptive Test ปรับความยากตาม performance ของผู้สอบ
แต่ละวิชาแบ่งเป็น 2 modules โดย module ที่ 2 จะปรับระดับข้อสอบ ตามความสามารถของผู้สอบที่ทำได้ใน module ที่ 1
แต่ละ module จะมีกำหนดเวลาแยกกัน
Reading & Writing: แบ่งเป็นส่วนละ 32 นาที (รวม 64 นาที)
Math: แบ่งเป็นส่วนละ 35 นาที (รวม 70 นาที)

3. Reading กับ Writing ยุบรวมเป็น Section เดียว

จากเดิมที่ภาษาอังกฤษจะแยก Reading และ Writing ออกจากกัน
Digital SAT จะยุบรวมเป็น section เดียวคือ Reading & Writing
บทความ Reading & Writing สั้นลงเยอะมาก
>> SAT เดิม: บทความยาวมาก อ่านกันตาลาย
>> Digital SAT: บทความจะยาวไม่เกิน 150 words
ความยากจะเป็นการผสมคำถาม ง่าย-ปานกลาง-ยาก
คำถามจะเป็น 1 ข้อ ต่อ 1 บทความ
*บางข้อจะมาเป็น passage pair คือมา 2 texts สั้น ๆ ต่อ 1 คำถาม

4. SAT Math ใช้เครื่องคิดเลขได้ทั้งหมดแล้ว

จากเดิมที่จะมีแบ่งเป็น section ที่ห้ามใช้เครื่องคิดเลข กับใช้ได้
Digital SAT จะปรับให้สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ทั้งหมดแล้ว
Digital SAT จะมีแอปเครื่องคิดเลขให้เลยในโปรแกรมการสอบ
*หรือผู้สอบสามารถใช้เครื่องคิดเลขตัวเองได้ (แต่ต้องเป็นแบบที่ได้รับอนุญาต)

นอกจากนี้โจทย์ปัญหา in-context questions จะสั้นกระชับขึ้นด้วยค่ะ โดยจากจำนวนคำถาม 44 ข้อ จะแบ่งเป็นแบบ Multiple-choice 75% และแบบต้องตอบเอง Grid-in 25%

5. Reading & Writing ปรับหลักการวัด

จากเดิมที่ข้อสอบจะแยกทักษะกัน ทำให้มีหลักในการวัดที่ค่อนข้างเยอะ และละเอียดมาก แต่ใน Digital SAT นั้นจะรวม Reading & Writing เป็น section เดียวกันเลย และจะมีการปรับหลักในการวัดทักษะให้ไม่ซับซ้อน และเป็นการวัดรวมทักษะการอ่านและการเขียนไปพร้อมกัน

Domain การวัดที่เกี่ยวกับทักษะ Reading

Craft and Structure (13-15 questions) 28%
วัดเรื่อง: การใช้ศัพท์, จุดประสงค์และความเชื่อมโยงของบทความ
Information and Ideas (12-14 questions) 26%
วัดเรื่อง: ความเข้าใจ, อ่านจับใจความ, การวิเคราะห์ และการหาข้อมูลจากบทความ, inference

Domain การวัดที่เกี่ยวกับทักษะ Writing

Standard English Conventions (11-15 questions) 26%
วัดเรื่อง: ไวยากรณ์ และการใช้โครงสร้างตามภาษาอังกฤษมาตรฐาน, การใช้เครื่องหมายในการเขียน Writing, การใช้ศัพท์ ภาษา ให้เหมาะกับมาตรฐาน
Expression of Ideas (8-12 questions) 20%
วัดเรื่อง: การปรับปรุงภาษา และประโยคให้ดีขึ้น, การเชื่อมโยงไอเดียในงานเขียน